Dhamma for Life

"เราจะเป็นชาวพุทธที่แท้จริงนะ เราต้องศึกษาสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ศึกษาอย่างเดียวไม่พอนะ ต้องลงมือปฏิบัติจริงๆ ด้วยจนเห็นผล พอเห็นผลแล้ว เราก็มีหน้าที่บอกต่อ เนี่ยหน้าที่ของชาวพุทธนะ ตัวเองต้องศึกษา ต้องฟังก่อน ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร เรียกว่าเรียนปริยัตินั้นเอง แล้วก็ลงมือปฏิบัติว่าได้ผลแล้วก็ต้องบอกต่อ ศาสนาถึงจะดำรงอยู่ได้ แต่ละคนมีภารกิจ อย่านึกว่าแค่ว่าเราจะมาฟังธรรมะเล่นๆ แต่ละคนมีความสำคัญทั้งนั้น"


"หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย ลงมือเสียแต่วันนี้ ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลาจะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป เพราะถึงเวลานั้น พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทาง ไปอีกนานแสนนาน"

...หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช...สวนสันติธรรม...

Jan 31, 2011

Luangta Mahabua - พระอริยเจ้า หลวงตามหาบัว – รอยธรรม รอยบุญ


เครดิตภาพ: http://www.luangta.com/
ภาพวันแสดงมุทิตาจิตหลวงตาวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๓
หลวงตามหาบัว พระอริยเจ้าสงเคราะห์โลกhttp://www.dhammada.net/2011/02/02/7222/

ข่าวหลวงตามหาบัว ท่านละสังขาร เมื่อวันที่ 30 มกราคม สิริอายุ 98 พรรษา ยังความโศรกเศร้าให้กับเหล่าศานุศิษย์ทั่วทิศทั้งใกล้ไกล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ครูบาอาจารย์จากทั่วสารทิศ และเหล่าศานุศิษย์เรือนแสนได้หลั่งใหลไปกราบองค์ธาตุขันธ์ท่านที่วัดป่าบ้านตาด แม้ในใจผู้เขียนจะรู้สึกใจหาย เศร้า แต่เมื่อใดที่นึกถึง วันที่ได้มีโอกาสกราบหลวงตา ได้ทำบุญกับหลวงตา เพียงไม่กี่เดือน ก่อนหลวงตาจะอาพาธ ได้เห็นหลวงตาใกล้ ๆ ลึก ๆ ก็เกิดปิติเมื่อนั้น ความเมตตาหาประมาณมิได้ของหลวงตายังคงแผ่ไปทั่ว ให้เราเหล่าศานุศิษย์ได้สัมผัสทุกขณะเสมอ

เกือบยี่สิบปีก่อน ผู้เขียนเคยไปกราบหลวงตาที่วัดป่าบ้านตาด สมัยนั้นธาตุขันธ์ท่านยังแข็งแรง สนทนาธรรมกับญาติโยมได้นานชั่วโมง ผู้เขียนจำได้ว่า ในขณะที่หลวงตาสอบถามสารทุกข์ สุขกับญาติโยมด้วยตวามเมตตา ว่ามาจากไหนบ้าง มาไกลแค่ไหน กินข้าวกินน้ำกันมาหรือยัง แต่มีญาติโยมจากต่างจังหวัดท่านหนึ่ง เอาแต่ถ่ายรูปองค์ท่าน ท่านปรามแล้วก็ยังถ่ายไม่หยุด ท่านจึงหันมาพูดว่า ถ่ายไปทำไม รูปหน่ะ มันไม่ใช่ของแท้ ของแท้อยู่ที่นี่ อยู่ที่กาย-ใจ เรานี้ นั่นคือธรรมที่ท่านแสดงให้ญาติโยมฟัง ท่านหมายถึงว่า ธรรมแท้ ไม่ต้องไปวิ่งหาที่ไหน ไม่ต้องลูบคลำที่ภาพถ่าย แต่อยู่ที่นี่ กับกาย กับใจเรานี้ ให้หมั่นเรียนรู้ลงมาที่ กาย – ใจ เรานี้ ก็จะเห็นธรรม  สักวัน

พระอริยสงฆ์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน (พระธรรมวิสุทธิมงคล)

ก่อนหลวงตาอาพาธ ไม่กี่เดือน ผู้เขียนได้มีโอกาสผ่านไปจังหวัดอุดร ระหว่างทาง ผู้เขียนก็ให้นึกขึ้นมาว่า ครั้งปีก่อนผู้เขียนอยากไปกราบหลวงตาที่วัดป่าบ้านตาด แต่บุญคงไม่ถึง เพราะผู้เขียนหาทางไปวัดไม่เจอ (ทั้งๆ ที่เคยไปมา แต่นานกว่าสิบปีแล้ว) วนอยู่อย่างนั้น สองถึงสามรอบ ผู้เขียนจึงเลิกล้มความตั้งใจ เพราะต้องไปให้ถึงอีกจังหวัดก่อนค่ำ มาครั้งนี้ผู้เขียนน่าจะลองหาทางไปวัดหลวงตาอีกทีไม่น่าจะหายากเหมือนครั้งก่อน เผื่อมีบุญได้กราบท่านก่อนกลับ และถึงแม้ว่าเวลาจะไม่อำนวย ไม่เจอองค์หลวงตาก็ตาม (เพราะบ่ายแล้ว วัดจะปิดประตู และหลวงตาแก่มากแล้ว คงพักผ่อน รับญาติโยมไม่ไหวเหมือนก่อน) แต่ผู้เขียนก็คิดว่าไม่เป็นไร อย่างน้อย ก็ได้มีโอกาสถวายปัจจัย ทำบุญกับหลวงตาที่วัด

เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ ปกติ หลวงตาท่านจะ ไม่ออกมานอกเขตวัดในตอนบ่าย โดยเฉพาะอากาศร้อน ๆ อย่างนั้น หากไม่มีกิจธุระ แต่วันนั้นช่างเป็นวันที่โชคดีของผู้เขียน เมื่อไปถึงหน้าวัด ผู้เขียนเห็นหลวงตานั่งอยู่บนรถกอลฟ์ หน้ารั้ววัด พร้อมโยมอุปัฏถากที่คอยดูแลหลวงตา และมีญาติโยมนั่งอยู่ข้างหลัง สองสามคน มีอุบาสิกาท่านหนึ่ง นั่งพนมมือพูดกับหลวงตาว่า มีวัวบาดเจ็บ ป่วย ร้องทั้งวัน น่าสงสาร (เหตุนี้ท่านจึงออกมาดู เพราะวัวที่ป่วย ผู้เขียนจึงมีโอกาสได้ทำบุญกับท่านโดยตรง ผู้เขียนยังจำได้ติดตาว่า หลวงตาท่านชราภาพมากแล้ว แต่ท่านช่างผุดผ่องเหลือเกิน และอุบาสิกาท่านนั้น ก็มีความผ่องใส เช่นกัน เสียดาย ไม่รู้จักชื่ออุบาสิกาท่านนั้น นี่กระมังที่พระท่านว่า คนงามด้วยศีล เป็นเช่นนี้กระมัง หากผู้เขียนมีโอกาสไปวัดบ้านตาดอีกครั้ง คงได้มีโอกาสพบอุบาสิกาท่านนี้ สักครั้ง) ผู้เขียนรู้สึกปิติ ดีใจอยู่ลึก ๆ ที่ได้มีโอกาสทำบุญกับหลวงตา แม้เพียงแค่นึก ธรรมก็ยังจัดสรรให้

พระคุณของหลวงตาที่มีต่อแผนดินไทย ต่อสังคมไทย นับคุณูปการหาใครเปรียบได้ แม้องค์ท่านจะชราภาพวัยกว่า 90 พรรษา ท่านก็ยังเมตตาต่อเราชาวไทย เป็นเสาหลักระดมทุนช่วยประเทศชาติให้รอดพ้นจากการล้มละลาย

วันนี้หลวงตาท่านละสังขารจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ท่านยังทิ้งรอยธรรม ธรรมอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า เป็นรอยธรรมให้เราได้เดินตาม ให้ถึงแห่งทางสิ้สุดในสังสารวัฏนี้ ผู้เขียนขอกราบแทบเท้าหลวงตา มา ณ ที่นี้

Vedio: ตามรอยบัว
เครดิต: เนื้อร้องทำนอง ขับร้องโดย โจโฉ http://www.jozho.net/

หากมีสิ่งใดที่ผู้เขียนได้ล่วงเกินต่อองค์พระรัตนตรัย ต่อพระอริยเจ้า พระอรหันต์เจ้า พระสงฆ์์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทุกๆ องค์ ตลอดจนพ่อ แม่
ครูอาจารย์ จะด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ด้วยกายก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ผู้เขียนกราบขออโหสิกรรม ณ ที่นี่

No comments:

Post a Comment