Dhamma for Life

"เราจะเป็นชาวพุทธที่แท้จริงนะ เราต้องศึกษาสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ศึกษาอย่างเดียวไม่พอนะ ต้องลงมือปฏิบัติจริงๆ ด้วยจนเห็นผล พอเห็นผลแล้ว เราก็มีหน้าที่บอกต่อ เนี่ยหน้าที่ของชาวพุทธนะ ตัวเองต้องศึกษา ต้องฟังก่อน ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร เรียกว่าเรียนปริยัตินั้นเอง แล้วก็ลงมือปฏิบัติว่าได้ผลแล้วก็ต้องบอกต่อ ศาสนาถึงจะดำรงอยู่ได้ แต่ละคนมีภารกิจ อย่านึกว่าแค่ว่าเราจะมาฟังธรรมะเล่นๆ แต่ละคนมีความสำคัญทั้งนั้น"


"หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย ลงมือเสียแต่วันนี้ ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลาจะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป เพราะถึงเวลานั้น พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทาง ไปอีกนานแสนนาน"

...หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช...สวนสันติธรรม...

Dec 30, 2010

A Gift...ของขวัญจากธรรม

หากมีใครถามว่า (แต่ไม่ยักมีใครถาม เพราะอยู่ไกลถึงหลังเขา) ปีใหม่ปีนี้อยากได้อะไรเป็นของขวัญ  ผู้เขียนคงต้องนึกอยู่นานว่าอยากได้อะไร เพราะที่ที่มีอยู่ ก็มีครบและพอเพียงแล้ว (พูดอย่างนี้หลายคนอ่านเจอเข้า คงหม้่นใส้ บวกค่อนขอดผู้เขียนนิด ๆ ว่า แหม รวยตาย หล่ะ หรือไม่ก็  เว่อร์ซะ...พูดดูดีเนอะ...)

ที่พูดอย่างนั้นก็ไม่ใช่อะไรอื่น เพราะคิดว่า หากอยากได้รางวัลร้อยล้านเป็นของขวัญ ก็คงเป็นได้แค่ฝัน ที่ไม่มีวันเป็นจริง (แล้วจะอยากไปทำไม?) เพราะแม้คนถามก็คงอยากได้เหมือนกัน และของขวัญที่่ผู้เขียนอยากได้ คงไม่มีใครหาซื้อให้ได้แม้มีเงินมากแค่ไหนก็ตาม...แต่  เรื่องไม่น่าเชื่อมักเกิดขึ้นได้เสมอ

Dec 28, 2010

A New Year Blessing...พรปีใหม่




ขออัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ พรปีใหม่ พรประเสริฐ และทรงคุณค่ายิ่่ง จากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ที่ได้พระราชนิพนธ์ขึ้นเพื่อปวงชนชาวไทยของพระองค์ 

มาเป็นศิริมงคล สำหรับทุกคนในวันปีใหม่ ขอพรอันประเสริฐนี้จงบังเกิดกับทุก ๆ คน
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔  

เพลง: พรปีใหม่
ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ

สวัสดี วัน ปี ใหม่ พา
ให้บรรดา เรา ท่าน รื่น รมย์ ฤกษ์ยามดี เปรม ปรีดิ์ ชื่น ชม
ต่างสุขสม นิ ยม ยิน ดี ข้าวิงวอน ขอ พร จาก ฟ้า
ให้บรรดา ปวง ท่าน สุข ศรี โปรดประทาน พร โดย ปรา ณี
ให้ชาวไทย ล้วน มี โชค ชัย ให้บรรดา ปวง ท่าน สุข สันต์ ทุกวัน ทุกคืน
ชื่น ชมให้สมฤทัย ให้รุ่งเรือง ใน วัน ปีใหม่ ผองชาวไทย จง สวัสดี
ตลอดปี จง มี สุข ใจ ตลอดไป นับ แต่ บัด นี้
ให้สิ้นทุกข์ สุขเกษม เปรม ปรีดิ์ สวัสดี วัน ปี ใหม่เทอญ


ความเป็นมาของเพลง


เพลงพระราชนิพนธ์ พรปีใหม่ เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 13 ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2494 เมื่อเสด็จนิวัตพระนคร และประทับ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต มีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานพรปีใหม่ แก่บรรดาพสกนิกรไทยด้วยเพลง จึงทรงพระราชนิพนธ์เพลง "พรปีใหม่" และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องเป็นคำอำนวยพรปีใหม่ แล้วพระราชทานแก่วงดนตรี 2 วง คือ วงดนตรีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำออกบรรเลง ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวงดนตรีสุนทราภรณ์ นำออกบรรเลง ณ ศาลาเฉลิมไทย ในวันปีใหม่ วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2495

  

Happy New Year...สวัสดีปีกระต่าย

วันวานยังเหมือนเดิม  สวัสดีปีใหม่ด้วยความทรงจำที่อบอุ่น


มอบให้น้อง ๆ ... ทุกคน

2554 สุขสันต์วันปีใหม่                      
ให้สดใสเบิกบานกว่าปีเก่า
สิ่งใดร้ายผ่านไปหายบรรเทา           
ทุกข์โศรกเศร้า รุมเร้าจิต มิดดับพลัน

กิจการ งานใดใด ให้บรรเจิด                         
สุดประเสริฐ์ ได้พร สมดังหวัง
ปีเก่าไป ปีใหม่มา ท้าพลัง                           
ไม่หุนหัน หมั่นเจริญจิต  คิดสิ่งดี

ปีกระต่ายไม่หมายจันทร์แต่หรรษา
ไม่นำพาทุกข์หมองกลับผ่องศรี
ไม่ขัดสน ล้นเงินทอง คล่องตลอดปี
สุขทุกที่ ตลอดปี กระต่ายเทอญ

สุขสันต์ สวัสดี-โชคดีปีใหม่ 2554

Dec 24, 2010

A Beautiful Mind...taste what's in the heart















"เมื่อใจงามคุณจะรู้สึกถึงความงามแม้ในสิ่งเลวร้าย  แต่หากใจร้ายคุณจะเห็นแค่แง่ร้ายแม้ในสิ่งดีงาม"
คำคมจากดังตฤณ


ด้วยคำคมนี้ ทำให้ผู้เขียนนึกถึงเรื่องราวของใครบางคน ที่เลือนลาง แต่...ยังประทับอยู่ในความทรงจำ (ลึก ๆ) ที่เป็นทั้งครู,แรงบันดาลใจ และแรงศรัทธา...เชื่อในพระธรรมของพระพุทธเจ้า...มากยิ่งขึ้น ในที่สุดความระลึกได้ก็กลับมาอย่างบังเอิญ..อีกครั้ง 
ขอบคุณคำคมดีๆ ของดังตฤณ

เครดิต: การเดินทางของใจที่เที่ยงแท้: จำรัส  เศวตาภรณ์
www.4share.com


   

Dec 10, 2010

ธรรมะ คำสอน...หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้

ผ่านไปอีกเดือน เดือนแห่งการสังคม เดือนแห่งการนัดหมาย เมื่อไรที่ติดอยู่กับทางโลกิยะ มักจะหลงทางเสมอว่าประตูทางออกอยู่ตรงไหน

สองสามอาทิตย์ก่อน เพื่อนเก่าส่งเมล์  (forwarding mail) หัวข้อ "ธรรมะของหลวงปู่ทวด อ่านแล้วส่งต่อเพื่อเป็นธรรมทาน" คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่อยู่ ๆ เพื่อนจะ forwarding mail  เรื่องที่ตรงกับเรื่องที่จิตกำลังคิด ณ ขณะนั้นมาให้  (ซึ่งกว่าจะหาเวลาเขียนได้ผู้เขียนก็หลงวนอยู่กับสังคมทางโลกอยู่นาน) หากเล่าเรื่องทำนองนี้ ให้เพื่อน ๆ หรือคนรู้จักกันฟัง เพื่อนจะหยอกกลับมาว่า แหมอย่างนี้  น่าจะคิดอยากได้เงินนะ จะได้คิดวัน ละหลายเที่ยว เผื่อว่าจะได้อย่างที่คิดบ้าง... อืม ก็เข้าท่านะ แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะถ้าเราคิดเพราะโลภ คงเป็นจริงยาก ว่าแล้ว เหล่าชน สุก ๆ ดิบ ๆ อย่างเราก็หัวเราะกันด้วยขำที่บางทีก็เผลอเพ้อเจ้อไป

Dec 2, 2010

Long Live H.M. The King ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ทีฆายุโตโหตุ มหาราชา


ธ สถิต ในหัวใจ ไทยทั้งชาติ
ทศพิธ-ราชธรรม  นำสุขสันต์
ดุจประทีป  ส่องสว่าง ทุกคืนวัน
พระเมตตา ยิ่งบิดา ผูกใจไทย

ทรงเหน็ดเหนื่อย ทั้งกายใจ เพื่อไทยราษฎร์
ทรงงานหนัก สรงเสโท ต่างน้ำใส
ถิ่นกันดาร ทุรเข็ญ ธ เสด็จไป
พระฤทัย ดั่งน้ำทิพย์ นิพธาร

บรรเทาทุกข์  ปลุกอาชีพ ทุกถิ่นภาค
ไทยทัั่วราช  เปี่ยมสุข ทุกสถาน
ใต้ธงไทย ใต้ร่มโพธิ-สมภาร
ไทยเบิกบาน ด้วยพระมหา กรุณาธิคุณ

น้อมจิตภักดิ์  อาเศียรวาท กราบถวาย
พระพรชัย วันเฉลิม พระชนม์พรรษา
สดุดี พระภูมี ธรรมราชา
ให้เกริกฟ้า ขอพระองค์ ทรงพระเจริญฯ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า  คณะผู้จัดทำ  ผักชี-ยี่หร่า บล็อก
  
เครดิต:
ภาพ:  จากหนังสือ "ทำเป็นธรรม" ผู้เขียน, ท่านผู้หญิงเกนหลง  สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

Video: http://www.youtube.com/watch?v=fhW2DF2tP_A&feature=player_embedded#at=35

Nov 8, 2010

Swiss Exhibition


วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ไปช่วยงานอาในวันเปิดงานแสดงศิลปะ ที่ Galerie Höchhuus Küsnacht (กาเลอรรี่ เฮิคฮูส คูสนาคท์)  งานนี้ (ได้รับเกียรติ)ให้ไปเป็นพนักงานขนของ, ต้อนรับ, เสริฟ และตากล้องไปในตัวเสร็จสรรพ  เลยเอาภาพบรรยากาศงานแสดงผลงานทางศิลปะ แบบสวิส สวิส มาให้ชมกัน
อาสำเร็จการศึกษาทางด้านศิลปและงานหัตถกรรมจากซูริก มีผลงานการแสดงมากมายมานับครั้งไม่ถ้วน เดินทางไปต่างประเทศมาแล้วนับไม่ถ้วนเหมือนกัน (ก็เป็นธรรมดาของคนยุโรป)  

Nov 7, 2010

Had Yai under water...น้ำท่วมหาดใหญ่

ภาพโดย Keystone ถ่ายจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นสวิสเซอร์แลนด์: สภาพน้ำท่วมหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดหาดใหญ่

สองวันก่อนอ่านข่าวเกี่ยวกับน้ำท่วมหาดใหญ่ เห็นภาพแล้วใจหาย บางครัวเรือนเห็นเพียงหลังคา  เนื้อข่าวบอกว่า นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นร่วมหมี่นในแถบชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซียเดือดร้อนสาหัสเดินทางไม่ได้และต้องหลบภัยจากน้ำท่วมที่สูงเป็นเมตร
น้ำท่วมถนนในหาดใหญ่สูงขึ้นมาถึงเมตร ทำให้ประชาชนกว่า ๑๕๐,๐๐๐ หลังคาเรือนเดือดร้อนสาหัส  บางหมู่บ้านน้ำท่วมสูงเกือบถึงหลังคา นักท่องเที่ยวที่พักในหาดใหญ่ไม่สามารถติดต่อไปยังเกาะสมุยได้  เนื่องจากโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตถูกตัดขาดเพราะขาดไฟฟ้า
จากผลสำรวจ ประชาชนราว ๖ ล้านคน ที่ประสบภัยพิบัติจากน้ำท่วมตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว  พบว่าเสียชีวิตไปแล้วกว่าร้อยคน
ส่วนทางเหนือของมาเลเซีย ประชาชนกว่า ๑๒,๐๐๐ คน สูญเสียบ้านเรือนจากภัยน้ำท่วมในครั้งนี้
เราคนไทยแม้อยู่ไกล หากเราช่วยกันคนละไม้ละมือ ไม่ว่าจะเป็นกำลังใจ ทางใดทางหนึ่งที่เราพอจะทำได้ หรือปัจจัย คงพอช่วยบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องชาวไทยได้บ้าง  จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกคน ที่ผ่านเข้ามาหน้าบ้าน  ช่วยกันคนละไม้ละมือ เพื่อคนไทย เพื่อนแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนเรา


ลิงค์ข้างล่างคืออีกช่องทางหนึ่งที่เราพอจะช่วยพี่น้องคนไทยที่กำลังเดือดร้อนจากน้ำท่วมในครั้งนี้ โครงการ ปฏิบัติการรวมใจช่วยเหลือภัยน้ำท่วมและภัยหนา  http://www.dhammada.net/2010/11/05/5387/

Oct 30, 2010

Inaugurating Phrabuddha Vachira Trilokanarth Saasada


สองวันก่อนที่วัด Dhamapala, Kandersteg วัดสาขาหลวงปู่ชา หลวงพ่อสุเมโธ เป็นประธานสงฆ์ประกอบพิธีประดิษฐาน พระพุทธวชิรไตรโลกนารถศาสดาอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อแล้วย  บอกบุญมายังเพื่อน ๆ และทุกคนที่ผ่านมาได้ร่วมอนุโมทนาบุญโดยเฉพาะกับท่านที่อุตสาห์ดำเนินการตั้งแต่การออกแบบองค์พระ ป้าย และหน้าบัณฑ์ประตู รวมถึงเป็นกำลังดำเนินการในการขนส่งที่ต้องใช้เวลาเดินทางทั้งขึ้นรถ ลงเรือจากเมืองไทย เพื่อนำมาประกอบที่วัด  (อาึจารย์เขมะสิริเล่าให้ญาติโยมฟังก่อนพิธีจะเริ่ม) อย่างที่เห็น ขอบุญถึงเพื่อนๆ และทุกท่าน ...ถ้วนหน้า
ภาพซ้าย: อาจารย์ญาณรโตจุดเทียนเริ่มพิธีภาพขวา: หลวงพ่อสุเมโํธ ประพรมน้ำมนต์องค์พระ

Oct 29, 2010

Flood & Generousness-ช่องทางลำเลียงน้ำใจ ไทยช่วยไทย




แผนที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบภัยพิบัติ 2553

วิกฤต เดือดร้อนรุนแรงเดือดร้อนได้รับผลกระทบกำลังฟื้นฟู
ข้อมูลอ้างอิงจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2553
ติดตามข่าวสาร และช่องทางการช่วยเหลือได้ที่เวบไซต์ http://thaiflood.com


ช่วงนี้บ้านเราหลายจังหวัดประสบความเดือนร้อน จากน้ำท่วมเรียกได้ว่าไม่เคยมีครั้งไหน ที่น้ำจะท่วมมากมายหลายจังหวัดเท่าครั้งนี้  ถึงคราวเดือดร้อน เราคนไทยด้วยกันไม่นิ่งดูดาย หลายช่องทางที่เราสามารถช่วยเหลือพี่น้องคนไทยเหล่านั้นได้ ตามช่องทางข้างล่าง สะดวกทางไหน คนละไม้คนละมือ คงพอบรรเทาความเดือนร้อนได้...ไม่มากก็น้อย  

สภากาชาดไทย
รับบริจาคสิ่งของที่สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย 1871 ถนนอังรีดูนังต์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ส่วนเงินบริจาคได้โดยโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย ชื่อบัญชี 'สภากาชาดไทยช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย' เลขที่045-3-04190-6 จากนั้นแฟกซ์ใบนำฝาก เขียนชื่อที่อยู่มาที่สำนักงานการคลัง สภากาชาดไทย ถึงหัวหน้าฝ่ายการเงิน หมายเลข 02-250-0120 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-256-4066-8 


สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV เปิดรับบริจาคสิ่งของ น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง กระดาษชำระ ถุงขยะ (ยกเว้นอาหารสด หรืออาหารที่มีอายุการเก็บรักษาสั้น) ที่บ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ สอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-629-4433
       
พันธมิตรโคราช ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพันธมิตรนครราชสีมา (พันธมิตรโคราช) บริเวณหน้าร้านข้าวต้มนายตี๋ ชั้นล่าง โรงแรมเมืองทอง ถนนชุมพล ด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา โดยจะทำหน้าที่รับบริจาคและจัดทำข้าวกล่องแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.นครราชสีมา ผู้สนใจสามารถบริจาคสิ่งของได้ที่ศูนย์ประสานงานดังกล่าว สอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-1404442

ททบ.5
รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย บัญชี ธ.ทหารไทย สาขาสนามเป้าออมทรัพย์ เลขที่ 021-2-69426-9 ชื่อบัญชี 'กองทัพบกโดย ททบ.ช่วยภัยน้ำท่วม' หรือที่สถานีศูนย์บริหารงานอุบัติภัย

สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 ตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ได้แก่ อาหาร น้ำ เทียน ไม้ขัด ไฟแช็ค ผ้าอนามัย ยากันยุง และยาแก้แมลงสัตว์กัดต่อย ที่ชั้น G อาคารมาลีนนท์ ทาวเวอร์ 2 สามารถร่วมบริจาคได้ทุกวัน ส่วนเงินสด บริจาคได้ที่ 'บัญชีครอบครัวข่าวช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 53' และ บัญชีกระแสรายวัน เลขที่ 014-300-3689 ธนาคารกรุงเทพ สาขามาลีนนท์

สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(สปภ.) เปิดศูนย์รับบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ศาลาว่าการ กทม. 1 (เสาชิงช้า) ,ศาลาว่าการ กทม. 2 (ดินแดง) และที่สำนักงานเขตทั้ง 50 แห่ง

บขส.-ขสมก.
เปิดศูนย์รับบริจาคเครื่องอุปโภค-บริโภค บริเวณประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 อาคาร
สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ(จตุจักร) และสถานีเดินรถ บขส.ทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กองประชาสัมพันธ์ โทร0-2936-2996 หรือ Call Center 1490 เรียก บขส.

ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ร่วมกับ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (โทลล์เวย์) และกองทัพบก ตั้งจุดรับบริจาคสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป ณ บริเวณประตูทางเข้าศูนย์การค้าฯ ชั้น บี (ร้านซูกิชิ) ฝั่งโรบินสัน

ค่ายมือถือ 3 ค่าย คือ เอไอเอส ดีแทคและทรูมูฟ เชิญร่วมส่ง sms โดยพิมพ์ ข้อความ 'น้ำใจไทย' หรือ 'namjaithai' ส่งไปที่หมายเลข 4567899 ค่าบริการครั้งละ 10 บาท โดยรายได้จากค่าบริการ sms นำช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั้งหมด

Oct 23, 2010

faithful.believe.credulous-ศรัทธา ความเชื่อ และงมงาย


พุดถึงความเชื่อ ศรัทธา งมงาย ทำให้นึกถึงครั้งหนึ่งที่เคยไปนั่งเรียนภาษาต่างด้าวร่วมกับชาวต่างชาติหลากภาษา คุณครูยกหัวข้อขึ้นมาสนทนาเกี่ยวกับตามเชื่อ และศาสนา ครูหันมาถามเราว่า ศาสนาของยู (หมายถึงพุทธ) เชื่อว่ามีชาติหน้าใช่ไหม เราตอบว่าใช่ แทนที่เธอจะถามถึงเหตุผล ทำไมเราเชื่อ อย่างเช่นที่เธอถามคนอื่นๆ เธอกลับสบัดหน้าพร้อมพูดเสียงสบัดกับนักเรียนต่างด้าวคนอื่น ๆ ว่า เฮอะ เธอคนนี้เชื่อว่ามีชาติหน้า ซึ่งแตกต่างจากศาสนา...

หากมองภาพรวมจะเข้าใจไม่ยากว่าทำไม ชาวต่างชาติจึงเข้าใจว่าชาวพุทธงมงาย และศรัทธาผิด ๆ เพราะภาพที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ (ที่ไม่ได้ศีกษาและเข้าใจศาสนาพุทธอย่างถูกต้อง) เห็นชาวพุทธ และวัดไทยในต่างแดน ในลักษณะนั้น และบ้างก็เข้าใจผิดว่าพุทธและฮินดูเหมือนกัน เพราะด้วยว่าเห็นพุทธกราบไหว้ นับถือเทพเจ้า ฯลฯ ประมาณนั้น)

ความจริง ศรัทธา ต่างจาก งมงาย และมีนัยต่างกันมาก ศาสนาพุทธสอนให้เราศรัทธาด้วยปัญญา  คุณดังตฤณ  ได้วิสัชนาเรื่อง ความแตกต่างระหว่างศรัทธากับงมงาย และเราจะแยกได้อย่างไร ไว้อย่างน่าสนใจว่า
"ศรัทธาที่ปราศจากการพิจารณาประกอบ โน้มเอียงที่จะเป็นความงมงายครับ 
ส่วนศรัทธาที่มีการพิจารณาแล้ว 
(หรือให้ดีกว่านั้นคือเห็นตามจริงจากประสบการณ์แล้ว) 
ว่าสิ่งที่ศรัทธามีคุณอย่างไร มีโทษอย่างไร

เมื่อใดพิจารณาแล้วว่าสิ่งที่ศรัทธา เช่นพระพุทธเจ้าและคำสอนของท่าน มีแต่คุณ
คือเอื้อให้ดำรงตนอย่างเป็นสุข มีชีวิตโดยไม่ต้องหวาดกลัว
กับทั้งไม่มีโทษ คือไม่ต้องเอาความเชื่อทางศาสนาไปเป็นข้ออ้างเบียดเบียนใคร
มีชีวิตโดยไม่ต้องเป็นที่หวาดผวาของใครๆ
พอตรึกตรองรอบคอบแล้วจึงยึดพระพุทธเจ้ากับคำสอนของท่านเป็นสรณะ
อย่างนั้นเรียกว่าศรัทธาอันประกอบด้วยปัญญา

ความเชื่อในช่วงเริ่มต้นเพียงน้อยนิดนั้น
คือศรัทธาที่เปรียบเหมือนเปลวไฟดวงน้อยบนหัวไม้ขีด
แต่ก็อาจกลายเป็นชนวนความสว่างที่ยั่งยืน
ขอเพียงนำเปลวไฟน้อยไปประดิษฐานให้ถูกที่
เช่นไส้เทียนใหญ่คือปัญญาอันตั้งลำ มั่นคง สติปัญญา ความมีเหตุผล
และประสบการณ์ประจักษ์แจ่มแจ้งเท่านั้น
จะรักษาศรัทธาไว้ได้ตลอดรอดฝั่ง กระทั่งตัวตายไปพร้อมกับศรัทธา
เปรียบเหมือนคนตาบอดที่ผ่าตัดได้ดวงตาแล้ว
ลืมตาขึ้นเห็นสีสันและความจริงทั้งหลายแล้ว
ก็ย่อมไม่มีคนตาบอดและคนตาดีที่ไหนมาหลอกได้ว่า
โลกและสีสันความจริงเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่อย่างที่กำลังเห็น

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของศรัทธาในศาสนาแล้ว
เมื่อยังไปไม่ถึงจุดที่ ‘ได้ดวงตาเห็นความจริง’
ก็อาจมีหลายสิ่งที่คลุมเครือก้ำกึ่งกันอยู่
บางครั้งแม้ศรัทธาอย่างมีปัญญาประกอบแล้ว ก็เหมือนจำต้องงมงายเชื่อไว้ก่อน
ยกตัวอย่างเช่นศาสนาพุทธบอกว่ากรรมวิบากมีจริง ทุกสิ่งมีเหตุผลที่มาที่ไปเสมอ
เราส่งใจพิจารณาตามแล้วก็คล้อยตามได้
โดยไม่รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่ที่ใครพูดมาก็เชื่อหมด
แต่กรรมวิบากก็เป็นเรื่องอจินไตย
ถ้าขาดสมาธิผ่องแผ้ว ขาดตาทิพย์ทะลุมิติกรรมวิบาก
เราก็ไม่อาจพิสูจน์จะแจ้งด้วยจิตตนเองอยู่ดี

ตรงนี้แหละ ตรงที่ตระหนักว่ายังต้องฟังผู้อื่นพูด ก็ต้องอาศัยศิลปะ
อาศัยหลักการแยกแยะว่าเรารับฟังอย่างงมงาย
หรือรับฟังด้วยศรัทธาที่ประกอบปัญญา

เอาง่ายๆอย่างนี้เลยครับ หากศรัทธาแล้วเราถูกปล้นปัญญา
ปล้นเหตุผล ปล้นความเป็นตัวเราไปหมด
เขาใช้วิธีบีบคอ บอกอะไรเราต้องเชื่อหมด ขู่อะไรเราต้องหงอหมด
อย่างนั้นเขาวางตัวเป็นผู้ทำเราให้เชื่ออย่างงมงายแล้ว

แต่หากศรัทธาแล้วเรายิ่งมีปัญญาคิดอ่านอะไรทะลุปรุโปร่ง
อ่านปัญหาขาด แก้ข้อติดขัดได้หมด
กับทั้งยังคงเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องตกอยู่ในภาวะพึ่งพา
เป็นผู้ได้เหตุผลที่ทำให้ชีวิตเป็นสุขขึ้นเรื่อยๆทั้งทางใจและทางกาย
อย่างนี้เขาส่งเสริมให้เรามีศรัทธาในแบบที่เป็นขาตั้งให้ปัญญาแข็งแรง ยั่งยืน
ยิ่งฐานศรัทธากว้างขวางมั่นคงเพียงใด ปัญญาก็ยิ่งต่อยอดขึ้นสูงได้มากขึ้นเพียงนั้น

ทั้งหมดที่กล่าวก็กล่าวตามเนื้อผ้านะครับ
ไม่ใช่ข้อตัดสินแบบจำเพาะเจาะจงลงไปที่ศาสนาไหนหรือคนกลุ่มใด
พระพุทธองค์เคยให้หลักการไว้ ว่าจะเชื่อนั้นอย่าเชื่อเพราะเหตุผลอื่นใด
ขอให้คำนึงเพียงประการเดียวว่าเชื่อแล้วเป็นประโยชน์หรือเป็นโทษ
มีผลเป็นสุขหรือเป็นทุกข์กับตนเองและผู้อื่น
นี่แหละครับจึงจะกล่าวได้เต็มปากว่าเรามีศรัทธาแบบพุทธ"

 ที่มา http://www.dharmamag.com/index.php?option=com_content&view=article&id=331&Itemid=63

Oct 17, 2010

Chili Mixed-อยากกินน้ำพริก คิดดังไปไหม

สองอาทิตย์ก่อน ร่ำ ๆ จะตำน้ำพริกตาแดงกินเอง (ด้วยสูตร แม่บังคับให้ทำ อาหารแนวนี้ฉันถนัดทำเองเสียที่ไหน แต่เรื่องกินไม่ต้องพูดถึง ถนัดไม่ต้องสอน อยู่บ้านมีแม่และน้องทำให้กิน มาอยู่ไกลบ้านนี้ ต้องทนกินฝีมือตัวเอง เศร้าแท้)

น้ำพริกตาแดง กินกับข้าวสวยหุงร้อน ๆ ไข่ต้มสักใบ เคียงด้วยผักใบนานาลวกสุก คงหายคิดถึงเมืองไทยไปโข  แต่คงเทียบไม่ได้กับน้ำพริกถ้วยเก่าของแม่และยาย ที่ฝีมือใคร...จะสู้
พูดถึงเรื่องน้ำพริก ทำให้นึกถึงสมัยยังโสด ทำงานในห้องแอร์ ด้วยคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวคือปากจัด นายเลยให้ไปช่วยเป็นกันชนให้กับโปรเจคในแดนไกลเสียหลายเดือน สมัยก่อน มันฝรั่ง กับอาหารยุโรปที่ส่วนใหญ่รสชาติ หลักคือเค็มกับเลี่ยนด้วยชีสที่พี่ผอมไม่ชอบมาเยือน เป็นปฏิปักษ์กับกระเพาะฉันเสมอ ชีวิตฉันคงไม่รอดหากขาดน้ำพริกที่แม่ทำให้ถึงสามกิโล อย่าเพิ่งตกใจ ว่าฉันกินหรือสวาปาม นะนั่น  คือว่าฉันมันคนประเภทติดเผ็ดแทนโคเคน  วันไหนกินข้าวไร้พริก เป็นต้องคิดงานไม่ออก บอกนายไม่ถูก พาลหงุดหงิดง่าย แทบน้ำลายฟูมปากอยากจะกัดใครคน (อย่าคิดมาก ว่าฉันเป็นหมาบ้า อากาศติดลบออกปานนั้นJ) ยิ่งสถานการณ์บังคับต้องกินข้าวนอกบ้าน และเข้าสังคมกับเหล่าเพื่อนร่วมงานหัวไม่ดำตาหลากสีทั้งหลาย  ขืนฉันควักน้ำพริกมาวางกลางโต็ะกินข้าว  คุณเหล่านั้นคงยกจานข้าวหนีไปนั่งโต๊ะอื่นเป็นแน่ 

Oct 13, 2010

Speculative opinion or wrong view ทิฐิ หรือทรรศนะ คือความเห็นต่าง ๆ

พูดถึงเรื่องทิฐิ หรือทรรศนะ คามเห็นต่าง ๆ ทำให้นึกถึงเหตุการณ์เกี่ยวกับพุทธศาสนาในบ้านเราขณะนี้  ที่มีความขัดแย้ง และทรรศนะแตกต่างกัน  อันที่จริงพระพุทธเจ้าท่านได้ประทานหลักในการตกลงใจว่าอะไรเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า และอะไรไม่ใช่ ทั้งทางตรงคือพระธรรมวินัย ทั้งอุปมาคำสอน หรือเรื่องราวที่แทรกอยู่ในพระสูตรต่าง ๆ ดังตัวอย่างหนึ่งใน พรหมชาลสูตร ว่าด้วยเรื่อง ทิฐิ และความเห็น นำมาเรียบเรียงด้วยภาษาร่วมสมัย ให้อ่าน และเข้าใจง่าย โดยปราชญ์ผู้รู้ ท่านอาจารย์วศิน อิทสระ...พระไตปิฎก ฉบับที่ทำให้ง่ายแล้


ครั้งหนึ่งขณะที่พระพุทธเจ้าเสด็จพร้อมภิกษุจำนวนมากจากราชคฤห์ไปนาลันทา  นักบวชลัทธิหนึ่งชื่อ สุปปิยะ และลูกศิษย์ชื่อ พรหมทัต กำลังเดิินทางเช่นกัน  ระหว่างนั้น สุปปิยะ ผู้เป็นอาจารย์ ก็ได้กล่าวติเตียน พระพุทธเจ้า ส่วนพรหมทัต ลูกศิษย์กล่าวสรรเสริญพระพุทธเจ้า ทั้งสองต่างขัดแย้งกันมาตลอดทาง  
พระพุทธเจ้าได้ประทับแรม ณ ตำหนักในหลวงที่พระราชอุทยานอัมพลัฏฐิกา (สวนมะม่วงหนุ่ม)  ส่วนนักบวชทั้งสองก็พักที่นั่นเช่นเดียวกัน  ต่างก็ยังโต้เถียงกันเหมือนเดิม จนกระทั่งรุ่งสาง


Sep 24, 2010

Dhamma..Dhammada ดับร้อน ถอนทุกข์-ศาสตร์แห่งการศึกษา ซึ่งต้องพิสูจน์



บ่อยครั้ง ที่เราปฎิเสธ และหลีกเลี่ยง ที่จะได้ยิน และได้เห็น ในสิ่งที่ไม่ตรงใจเรา ไม่ถูกใจเรา  หรืออาจทำให้เราเสียใจ ด้วยเพราะว่าธรรมชาติของมนุษย์ปุถุชนที่ยังมีกิเลส (รวมทั้งผู้เขียน) อยากได้สุข ไม่อยากเอาทุกข์

พระพุทธองค์สอนให้เรารู้จักทุกข์ เรียนรู้เพื่อเห็นทาง วางและดับทุกข์นั้น...ในที่สุด 
เราชาวพุทธ นับว่ามีบุญกว่าใครเพื่อนที่เกิดมาได้พบพระพุทธศาสนา ได้รับคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ถ่ายทอดผ่าน ครู บา อาจารย์ ตลอดจนปราชญ์ผู้รู้ และสาวกที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ อีกทั้งคำสอนของพระพุทธองค์ได้มีบันทึกไว้ให้ได้ศึกษากันอย่างกว้างขวางในคัมภัร์ี่เรียกว่า "พระไตรปิฎก" 


นอกจากนั้นชาวพุทธยังสามารถศึกษาหาอ่านได้จากหนังสือ ที่ครูบาอาจารย์ และปราชญ์ผู้รู้ทั้งหลายได้ถ่ายทอดด้วยภาษาง่าย ๆ อ่านง่าย เข้าใจง่าย มากมาย อาทิเช่น 
- หนังสือ “สมเด็จพระสังฆราชา”  รวมพระนิพนธ์ ของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก,
จัดพิมพ์โดย ธรรมสถา   
- หนังสือ “พระไตรปิฎก ฉบับที่ทำให้ง่ายแล้ว”  เรียบเรียงโดย อาจารย์วศิน  อินทสระ

เป็นต้น...

Sep 21, 2010

อุปสรรคหรือวัดใจ


...พักสายตา พักใจที่หมอง มองดูทะเล ดีกว่า...Thun See 2009


ขมักเขม้นจิ้มพิมพ์หนังสือมาร่วมสองเดือนอยู่ดี ๆ ก็มีเหตุการณ์เข้ามาวัดจิต สกิดให้ใจเศร้า Hard Disk เจ้ากรรมดันมาเสีย  เสียบก็ไม่เห็น เข็ญเท่าไรก็ไม่อ่าน แล้วก็ให้ช่างบังเอิญเสียจริง ไฟล์ต้นฉบับที่ อัฟเดตใหม่ทั้งหมดก็ถูกโอนถ่ายมาใส่ใน เจ้า Harddisk ตัวจิ๋วนี้ทั้งหมดเสียด้วยสิ แถมไม่เหลือร่องรอยไฟล์เก่าทั้งในโน๊ตบุคและ Desktop เลย ไม่น่าเลย

สังหรณ์ใจอยู่แล้วเชียว ว่า จะ Copy ต้นฉบับไปไว้ใน Hard Disk ในเครื่องอันใดอันหนึ่งอีกตัว เผื่อกันเหนียว ก็มัวแต่ ว่าจะ ว่าจะ แล้วเป็นไงหล่ะคราวนี้ ต้องเริ่มต้นกันใหม่หมดเลยทีเดียว ก็คงต้องทำใจ ได้อย่างเดียว เฮ้อ เนี่ยนะ เรียกว่า เลินเล่อ ไม่มีสติของตัวเอง ก็เพราะเผลอไปเหยียบเจ้า Hard Disk ตัวจิ๋วที่วางไว้กับพื้นนะสิ สมควรแล้วที่มันจะพัง ก็เหยียบซะเต็มเท้างั้น  

Sep 3, 2010

Nothing happens by chance! บอกบุญ คุ้นใจ


Nothing happens by chance or by means of Good Luck or Bad Luck!
เป็นความจริงที่ว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะโชคดีหรือโชคร้าย ก็ล้วนแล้วแต่มี ที่มา ที่ไป...เสมอ

ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ตั้งใจไว้ว่าจะแบ่งเงินจำนวนหนึ่งที่เพื่อนต่างวัยน้ำใจมากหลาย ให้มาเป็นค่าแรงและน้ำมันรถที่ไปช่วยงาน ไปทำบุญที่วัดป่า สาขาหลวงพ่อชาให้เพื่อน แต่ดูเหมือนมีอะไรมาดลใจให้ให้ละล้าละลัง ให้รอก่อน จนถึงกลางเดือนที่แล้ว ก็ได้รับข่าวจากทางบ้านว่ายายเสีย ก็คิดไว้ว่า งั้นก็ไปทำบุญถึงยายฉันด้วยเลยทีเดียวแล้วกัน จะได้ไม่ต้องขับรถ ไป-มาไกล (ไป-กลับร่วมหกชั่วโมง) แต่ก็อีก ต้องมีเหตุดึงไว้อีก จนล่วงเลยมาเกือบถึงสิ้นเดือน ซึ่งเป็นอาทิตย์เดียวกันกับที่ได้ข่าวจากเพื่อนว่า ยายของเพื่อนต่างวัยเสีย  ในที่สุด เหตุปัจจัยก็ส่งผลให้ทุกอย่างที่ตั้งใจจะทำ ลงตัวเหมาะเจาะเอาอาทิตย์สุดท้ายของเดือน...ไปกลับในคราวเดียว แต่สำเร็จไปหลายอย่างในวันเดียว อย่างนี้ไม่เรียกว่า ธรรมจัดสรรได้อย่างไร...ผลที่ดี ย่อมมาจากเหตุที่ดีเสมอ ไม่มีเป็นอื่น...แน่นอน
ฉันได้ทำบุญ ถึงยาย ตา และ ญาติทั้งหลายที่ล่วงลับ และพร้อมกันนั้นฉันก็ได้โอกาสทำบุญถึงยายของเพื่อนต่างวัยด้วยที่เสียในวันเดียวกันกับวันฌาปนกิจศพของยายฉัน
ฉันถือโอกาสนี้เล่าถึงความดีมีน้ำใจของเพื่อนต่างวัยคนนี้สักเล็กน้อย ความเป็นคนใจดี และใจกว้างยิ่งแม่น้ำ ชอบช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก และคอยห่วงใย เสมอต้นเสมอปลาย ไม่เฉพาะต่อฉัน หากแต่เสมอต่อคนอื่น แม้แรกรู้จัก ที่ประเสริฐในตัวเธอ (ตลอดระเวลาที่ฉันรู้จักเธอ) คือทุกลมหายใจ เข้า-ออกของเธอ คือแม่ ทำเพื่อแม่ ความดีเหล่านี้ ใครได้เห็นหรือได้ยิน ย่อมอนุโมทนา รวมทั้งฉันด้วย บุญ ส่งให้เธอได้ไปร่วมงานศพและส่งยายของเธอขึ้นสวรรค์ ขอผลบุญทั้งหลายถึงเพื่อนโดยไว คิดสิ่งใดสมปราถนา หมดทุกข์ มีสุข ทุกวันคืน  
บุญจากการภวายภัตตาหาร และของขบฉันจำเป็น อีกทั้งได้มีโอกาสถวายยา ที่ตรงกับโรคแด่ภิกษุที่กำลังป่วย  ได้ทำสำเร็จแล้ว  ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หลานๆ และทุกคนที่แวะเวียนมาเยี่ยมบ้าน ร่วมอนุโมทนาบุญ และขอผลบุญนั้นถึงทั่ว...ทุกท่าน... 




















อาหารถวายพระ
ส้มตำไทย ข้าวเหนียว  
อาหารคาวแสนเรียบแบบอิสานบ้านเรา
ต้มข่าเต้าหู้เห็ดแชมปิญอง กับ ข้าวกล้องหอมมะลิ             - อาหารคาวแบบ มังสวิรัส
ยำวุ้นเส้นเห็ดหูหนู น้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่นบวกไทย โรยหน้าด้วยไข่ต้มสุก
สังขยาฟักทอง ของหวาน แบบไทยๆ  ที่คนอายุสี่สิบขึ้นไปรู้จักดี  แน่นอนว่า พระที่มาจากวัดป่า หรือวัดบ้านในเมืองไทย...ท่านรู้จักและคุ้นลิ้นเป็นอย่างดี (ท่านเมตตาอธิบายให้ญาติโยมชาวต่างชาติด้วย ว่า นี้ของหวานแบบไทย นี้ของหวานแบบยุโรป...สาธุ สาธุ)
ขาดไม่ได้ ของหวานแสนง่าย สไตล์ยุโรป...ชอคโกแลตพุดดิ้ง  
















บอกบุญ คุ้นใจ
พฤศจิกายน ๒๕๕๓  หลวงพ่อสุเมโธ จะกลับไปจำวัดที่ วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี เมืองไทย เป็นการถาวร หลังจากที่หลวงพ่อสุเมโธ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส และจำวัดอยู่ที่วัดอมราวดี ที่ลอนดอน มานานร่วม ๓๓ ปี

One who abides in Dhamma,
Who delights in Dhamma,
Who contempaltes Dhamma,
does not lose the Way.


Dhammapada v.364

Aug 23, 2010

The Power of Positive Thinking and Attitude-กำลังใจจากเพื่อน


กำลังใจ มีมาให้เสมอ แม้อยู่ไกลกันสุดขอบฟ้า
อาทิตย์ก่อนเพื่อน ๆ ส่งความห่วงใจพร้อมด้วย Positive Thinking มาให้
เพื่อนๆ คงเป็นห่วง เห็นฉันเงียบหายไป  จึงส่งกำลังใจผ่านดินฟ้าอากาศมา
ทั้งกำลังใจ พร้อมตัวเลือกมาในเมล์เดียวกัน ข้อ 1 ส่งเมล์ต่อให้เพื่อน หรือ ข้อ 2 ลบเมล์ทิ้งเสีย 

ฉันเลือกที่จะแปะไว้ที่หน้าบ้านหลังเล็กนี้แทน (ที่เจ้าของใจดี อย่าง blogspot ให้ฉันใช้เนื้อที่ปลูกบ้านฟรี โดยไม่คิดค่าตอบแทน ตราบใดที่บ้านไม่ใหญ่โตเกินเนื้อที่) ด้วยเผื่อว่า จะเป็นประโยชน์ และเป็นกำลังใจเล็กๆ ให้กับเพื่อน ๆ และทุกคนที่อาจจะบังเอิญพลัดหลงมายังหน้าบ้านฉัน
เพื่อนบอก ได้รับข้อความจากเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนของเธอได้เลือกที่จะส่งเมล์ให้เธอแทนที่จะลบทิ้ง และเธอ (เพื่อนของเพื่อน) ได้เล่าเรื่องราวของเด็กหญิงตัวเล็กๆ เป็นข้อคิดดี ๆ มาในเมล์ด้วย 

Aug 15, 2010

Anangana Sutta-without blemish ผู้ไม่มีกิเลส



เมื่อไรเจ้า สมุทัย วายร้ายตัวดี มีพิษสงมากหลายตัวนี้เข้ามาจับจองพื้นที่ในจิตเมื่อไร ไอ้ที่บอกว่ามีสติและมั่นคงนักหนานั้น ก็มีอันซวนเซถูกสมุทัยต้อนเข้ามุมจนหมอบราบคาบ คางเหลืองได้เหมือนกัน  ไหนหล่ะ ที่ว่าเป็นคนดี มีจิตเมตตา ไม่พยาบาท คาดแค้นไง ที่แท้ก็พวกเดียวกับฉันนั่นแหล่ะ ฮี้โธ่ นึกว่าแน่ เมื่อเจ้าสมุทัย ต่อยหมัดหนักเข้าคาง แถมยิ้มเยาะ พร้อมหย่อนคำเย้ยแล้วจากไปอย่างผู้ชนะ ทำเอาเจ้าจิตสวย (ที่หลงคิดว่าตัวเอง จิตดี ไม่มีที่ติ) ลงไปนอนคางเหลือง หายใจรวยริน เห็นความจริงอีกครั้ง (นับไม่ถ้วน) ว่าที่หลงตัวเองอยู่นาน เป็นคนดี ตีบทคนใจบุญแตกนั้น ยังสอบไม่ผ่านแถมต้องช้ำใจที่ เมื่อเห็นอาสวะหนึบหนารอบจิตอีกหลายตัน...ไม่เป็นไรนะ ลุกขึ้นสู้ใหม่ หมั่นบริหารจิตไป  สักวันคงไม่ต้องระทมทุกข์กับ กิเลส ที่นับวันจะเห็นทับทวีคูณ จนสติกระเจิดกระเจิงเมื่อเจ้าสมุทัยเข้ามาปลุกปั่น..."

 
หนทางขัดเอาอาสวะให้หมดจากจิตได้  พระผู้รู้ สาวกของพระบรมครูท่านบอกไว้ว่า มีอยู่ทางเดียว  คือหมั่นบริหารจิต ศึกษาและปฎิบัติตามคำสอนของพระบรมครู...เท่านั้น...



ตามที่เคยเล่าไว้เกี่ยวกับมนุษย์ 4 จำพวก พระพุทธเจ้า แยกดีแยกเลว อยู่ที่รู้หรือไม่รู้  กิเลสเกิดแล้วรู้ทันตรงนั้นดี  อยู่ที่รู้ทันจิต มีอยู่ 4 พวก นั้น    หลายคนที่ยังไม่รู้ และยังสงสัย (รวมทั้งผู้เขียน) ว่า คนมีกิเลสเหมือนกันทำไม พวกหนี่งกลับบอกว่าดี และอีกพวกหนึ่งกลับบอกว่าใช้ไม่ได้

·                     พวกหนึ่ง จิตเป็นกุศลรู้ว่าเป็นกุศลนั้นดีเลิศ (ไม่มีกิเลสและรู้ว่าตนไม่มีกิเลส)
·                     พวกหนึ่ง จิตเป็นกุศลแล้วไม่รู้ว่าเป็นกุศล ใช้ไม่ได้ (ไม่มีกิเลส แต่ไม่รู้ว่าตนไม่มีกิเลส)
·                     พวกหนึ่ง จิตเป็นอกุศล รู้ว่ามีอกุศล ท่านบอกว่าดี (มีกิเลส และรู้ว่าตนมีกิเลส)
·                     พวกหนึ่ง จิตอกุศลเกิดแล้วไม่รู้ว่า อกุศลเกิด นี้ใช้ไม่ได้ (มีกิเลส แต่ไม่รู้ว่ามีกิเลส)

วันหนึ่ง ก็ได้คำเฉลย เมื่ออ่านไปเจอในหนังสือพระไตรปิฎก ฉบับที่ทำให้ง่ายแล้วของอาจาย์ วศิน อินทสระ  จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าเป็นประโยชน์ และคลายความความสงสัย (โดยเฉพาะจิตที่ชอบคิดค้นไม่หยุด) เห็นอัศจรรย์คำสอนของพระพุทธองค์ ว่าแจ่มแจ้งเพียงใด

ว่าที่จริง ความสงสัยนี้ไม่ได้เพียงแต่เฉพาะเราที่กำลังเดินตามรอยพระบาทพระพุทธองค์เท่านั้น หากแต่พระมหาโมคคัลลานะ ได้สงสัยและถามพระสารีบุตร ไว้แต่กาลที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่
ณ เชตวัน เมื่อครั้งพระสารีบุตรได้แสดงธรรมข้อนี้แก่ภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย

พระสารีบุตรได้อธิบายว่า  
ที่เป็นดังนั้นเพราะ
คนที่มีกิเลสแต่ไม่รู้ว่ามีกิเลส ย่อมเป็นเหตุให้กิเลสเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ (เหมือนตนเป็นโรคแต่ไม่รู้ว่าตนเป็นโรค)

ส่วนคนที่ไม่มีกิเลสแต่ไม่รู้ว่าตนไม่มีกิเลสนั้นย่อมทำให้กิเลสกำเริบขึ้นได้ ทำให้ราคะ โทสะ โมหะ กำเริบจขึ้นได้ (เหมือนคนหายโรคแล้วแต่ไม่รู้ว่าหายแล้ว เป็นคนหลง ไม่รู้ตามความเป็นจริง)

ส่วนคนมีกิเลส รู้ว่าตนมีกิเลส ย่อมมีโอกาสทำลายกิเลสให้หมดไป คนที่ไม่มีกิเลส รู้่ว่าตนไม่มีกิเลส ชื่อว่ารู้ตามความเป็นจริง

พระสารีบุตรได้แสดงตัวอย่างกิเลสที่เรียกว่า อังคณะ  คือกิเลสชนิดต่าง ๆ เกี่ยวกับโลภ โกรธ หลง และความปราถนาต่าง ๆ อันไม่เป็นธรรม เช่น ภิกษุปราถนาให้ตนได้ลาภได้ความนิยมนับถือแต่เพียงผู้เดียว  ผู้อื่นอย่าได้ เป็นต้น รวมเรียกว่า อิจฉาวจร แปลว่า ท่องเที่ยววนเวียนอยู่ในความปราถนาต่าง ๆ ไม่มีสิ้นสุด  ถ้ายังละอิจฉาวจรเหล่านี้ไม่ได้  แม้เธอจะอยู่ป่า นุ่งห่มผ้าสีเศร้าหมองแสดงตนเป็นผู้เคร่งครัด เป็นต้น  เพื่อนภิกษุด้วยกันก็หาเคารพนับถือไม่  ส่วนภิกษุผู้ละบาปอกุศลต่าง ๆ ได้ แม้จะอยู่เสนาสนะใกล้บ้าน รับนิมนต์ คือฉันอาหาร ตามที่ชาวบ้านนิมนต์ไปตามบ้าน หรือมาถวายที่วัด  ใช้จีวรที่ชาวบ้านถวาย  ซึ่งไม่ใช่บังสุกุลจีวรก็ตาม  เพื่อนภิกษุด้วยกันก็เคารพนับถือ

ภิกษุผู้ยังละบาปอกุศลอันเป็นกิเลสอยู่ในใจไม่ได้  แม้จะแสดงตนว่าเคร่งครัด น่าเลื่อมใส  ก็เป็นแค่เพียงภายนอกเท่านั้น  ส่วนภายในเต็มไปด้วยความเศร้าหมองเหมือนถาดสัมฤทธิ์ที่สวยงามภายนอก  แต่ภายในบรรจุซากศพไว้ พึงรังเกียจ น่าสะอิดสะเอียน

ส่วนภิกษุผู้ละอิจฉาวจรอันเป็นบาปอกุศลได้แล้ว  แม้จะมิได้แสดงตนว่าเคร่งครัด  แต่ภายในบริสุทธิ์สะอาดปราศจากกิเลสอันทำให้เศร้าหมอง  เปรียบเหมือนภาชนะสัมฤทธิ์หรือถาดสัมฤิทธิ์ที่สวยงามทั้งภายนอกและภายใน  มีโภชนะอันปราณีตน่าบริโภค

พระพุทธองค์ตรัสว่า  ผู้พรั่งพร้อมด้วยอิจฉาและโลภะจะเป็นสมณะได้อย่างไร เป็นได้แต่เพียงบุคคลประเภทขี้ม้า  คือเกลี้ยงเกลาแต่ภายนอก  ภายในรุงรังสกปรก เพราะฉะนั้นจึงควรระวังภายในให้ดี  ถ้าสวยทั้งภายนอกและดีทั้งภายในก็ดียิ่งขึ้น

ที่มา:  พระไตรปิฎกฉบับที่ทำให้ง่ายแล้ว หน้า ...อาจารย์วศิน  อินทสระ