Dhamma for Life

"เราจะเป็นชาวพุทธที่แท้จริงนะ เราต้องศึกษาสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ศึกษาอย่างเดียวไม่พอนะ ต้องลงมือปฏิบัติจริงๆ ด้วยจนเห็นผล พอเห็นผลแล้ว เราก็มีหน้าที่บอกต่อ เนี่ยหน้าที่ของชาวพุทธนะ ตัวเองต้องศึกษา ต้องฟังก่อน ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร เรียกว่าเรียนปริยัตินั้นเอง แล้วก็ลงมือปฏิบัติว่าได้ผลแล้วก็ต้องบอกต่อ ศาสนาถึงจะดำรงอยู่ได้ แต่ละคนมีภารกิจ อย่านึกว่าแค่ว่าเราจะมาฟังธรรมะเล่นๆ แต่ละคนมีความสำคัญทั้งนั้น"


"หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย ลงมือเสียแต่วันนี้ ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลาจะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป เพราะถึงเวลานั้น พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทาง ไปอีกนานแสนนาน"

...หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช...สวนสันติธรรม...

Jun 16, 2010

เฉลี่ยความดีให้ผู้อื่นได้ชื่นชม ๑ ในมรรควิธีในการสร้างบุญ ๑๐ ประการ ที่ไม่ต้องใช้เงิน


สองวันก่อนไปถวายอาหารพระทำบุญวันคล้ายวันเกิด (ที่จริงทำบุญก็ทำได้ทุกวันอยู่แล้วเนอะ ไม่จำเป็นต้องให้ถึงวันคล้ายวันเกิดก็ได้เนอะ)  เอาเถอะ ยังไงเสียบุญนั้นก็สำเร็จแล้ว คนทำก็มีความสุข สุขทั้งก่อนทำ ระหว่างทำ และหลังจากได้ทำแล้ว  จึงอยากแบ่งปันให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ ได้ร่วมอนุโมทนาบุญ และได้ทำบุญไปพร้อม ๆ กันด้วย เรียกว่ายิงนัดเดียวได้นกสองตัวเชียวนะ  แล้วอย่างไรหล่ะที่เรียกว่าได้ทำบุญ และได้บุญ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ไปถวายอาหารด้วย


ว่าที่จริงแล้ว ที่สุดของบุญ/การทำบุญนั้นไม่เกี่ยวกับเงินเลย พระพุทธเจ้าตรัสไว้ เรียกว่าบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ มีมรรควิธีในการทำดังนี้

๑.  ทำบุญด้วยการ "แบ่งปัน" วัตถุ สิ่งของ ปัจจัยสี่ หรือที่เรียกว่า "ให้ทาน" นั่นเอง รวมถึง "อภัยทาน" ด้วย
๒.  ทำบุญด้วยการ "รักษาศีล"
๓.  ทำบุญด้วยการ "เจริญจิตภาวนา"
๔.  ทำบุญด้วยการ "อ่อนน้อมถ่อมตน"
๕.  ทำบุญด้วยการ "เสียสละช่วยงานผู้อื่น ช่วยเหลือสังคม"
๖.   ทำบุญด้วย "เฉลี่ยความดีให้ผู้อื่นได้ชื่นชม"  
๗.  ทำบุญด้วยการ "แสดงความยินดี เมื่อได้ทราบว่าผู้อื่นทำความดี  หรือการอนุโมทนา/ชื่่นชมความสุข ความก้าวหน้าของคนอื่น"
๘.  ทำบุญด้วย "การฟังธรรมตามกาล"
๙.  ทำบุญด้วย "การแสดงธรรม แจกจ่ายธรรม หรือธรรมทาน"
๑๐.  ทำบุญด้วย "มีสัมมาทิฐิ สัมมาทัศนะ ทำความเห็นให้ตรง  พัฒนาปัญญาให้เกิด เชื่อกฎแห่งกรรม เชื่อตามหลักและเหตุผล"   ข้อนี้พระพุทธเจ้าตรัสว่าสำคัญที่สุด คือการมีปัญญา เห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม   มีความเข้าใจในเรื่อง บาป บุญ คุณ และโทษ สิ่งที่เป็นแก่นสาระหรือที่ไม่ใช่แก่นสาระ ทางเจริญทางเสื่อม สิ่งอันควรประพฤติ สิ่งอันควรละเว้น 


รวมลงโดยย่อคือ "ทาน ศีล ภาวนา"   นั่นเอง

เห็นไหม ทำบุญไม่ต้องใช้เงินสักแดงเดียวก็ได้  ก็บุญจากการอนุโมทนาบุญในการถวายอาหารพระนั่นไง หนึ่งในนั้นมีของหวานที่ทุกคนรู้จักดีด้วยหล่ะ เลยขอโพสภาพยั่วน้ำลาย (สำหรับผู้ที่ชื่นชอบของหวานแนวนี้) กลืนน้ำลาย (เอื้อก ๆ) ไป พลาง ๆ ก่อนนะ ไว้มีโอกาสจะทำให้ทานละกันนะ

No comments:

Post a Comment