บันทึก...เมื่อ วัน (เดือน) วาน
จิตไม่ (สารเลว) รักดี... เพื่อนสนิทชิดกมล
เพื่อนสนิทที่ไม่เคยห่างจากฉัน ไม่ว่าจะยามตื่นหรือยามหลับ เธอ จิต ไม่ (สารเลว) รักดี วันๆ ชอบชวนฉันให้คิดแต่เรื่องที่ทำให้ตัวเองเศร้าหมอง ต่อยใข่ใส่สีกับเรื่องที่ผ่านมาแต่ไม่ยอมให้ผ่านไป ทำให้จิตฉันเกิดอกุศลไม่เว้นแม้วินาที แล้วจิตดีๆ ที่ไหนจะสู้ไหว จึงถอยตกขอบเวทีอย่างไม่เป็นท่า ยังไม่พอเจ้าเพื่อนซี้แสน (เลว) แสบ ก็พาฉันแล่นออกไป ทางตาบ้าง หูบ้าง ฯ เก็บเกี่ยวเรื่องเก่าๆ มาเล่าซ้ำ ย้ำใจให้ใจฉันเจ็บจี็ด เท่านั้นยังไม่พอ ฉุดกระชากลากฉันไปในอนาคตราวกับลมกรด ใส่สีสันให้หวั่นวิตกในจิต จิตเถียงจิตกันเองอยู่ข้างใน ระงมอึงอื้อราวกับคนวิกลจริต หลอกให้ใครๆ เข้าใจผิด คิดว่าฉันเป็นคนรักสงบ แต่รู้ไม่ จิตฉันมันพูด ถกเถียงกันทั้งวัน แม้ยามหลับยันตื่นนอน
แม้จะรู้ทั้งรู้ว่า ไม่สามารถสั่งจิตให้หยุดคิด หรือสั่งให้มันสงบได้ อย่างที่ครูบาอาจารย์ พร่ำสอนเอาไว้ ให้ดูจิตมันทำงานด้วยจิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลาง เมื่อจิตมีโทสะ ก็ให้รู้ว่ามีโทสะ จิตมีโมหะก็ให้รู้ว่ามีโมหะ เมื่อจิตยินดียินร้ายกับสภาวะใด ๆ ไม่ว่า จะรู้สึกโกรธขึ้นในใจ หรือโมโหได้เกิดขึ้นแล้ว ก็ให้รู้ทันสภาวะนั้น (อย่างเดียว) แต่ฉัน มันอ่อนหัด แถมสติก็อ่อนไหว เลยถูกกิเลสย้อมใจให้หลงยินดียินร้ายไปกับมัน ผลคือจิตฉันมอมแมมจมอยู่ในโคลนตมอาสวะกิเลสแทบหายใจไม่ออก เหนื่อยหอบ และะเบื่อหน่ายกับจิตไม่รักดีของตัวเอง เสียจริง
ในที่สุด ก็เสียท่าเจ้าเพื่อนตัวแสบ พาฉันไปเยี่ยมญาติในภูมินรกจนได้ หลงเวียนวนอยู่ในภพของสัตว์เดรัจฉาน (ที่เกิดขึ้นในใจ) อยู่นานร่วมเดือน
จะว่าไปแล้ว ในเสียย่อมมีได้เสมอ เอาคำสอนท่านพุทธทาสเสริมสร้างกำลังใจ “ดูให้ดี มีแต่ได้ไม่มีเสีย” จะได้ไม่ท้อถอย แม้จะสู้รบเสียท่าเจ้าจิตไม่ (สารเลว) รักดี เพื่อนขวัญของฉัน แต่ในเสียก็มีดีให้ฉันเห็น เห็นสภาวะที่จิต เกิด-ดับ เป็นเช่นไร จิตแสดงไตรลักษณ์ให้เห็นเป็นอย่างไร เหมือนที่ครูบาอาจารย์สอนไว้ หมั่นเจริญสติเข้าไว้ จะได้ไม่แพ้ภัยศัตรูที่อยู่ในใจ เรียนรู้ลงมาที่กาย-ใจนี้ แล้วจะพบธรรมะของจริง ครูใหญ่ที่สอนธรรมะเราอยู่ทุกคืนวันไม่ใช่ใครที่ไหน คือ กาย-ใจ (รูป-นาม)... เรานี้เอง ขอบคุณเพื่อนรัก... จิต ไม่ (สารเลว) รักดี
มือใหม่ หัดดู
10 พค.54
จิตไม่ (สารเลว) รักดี... เพื่อนสนิทชิดกมล
เพื่อนสนิทที่ไม่เคยห่างจากฉัน ไม่ว่าจะยามตื่นหรือยามหลับ เธอ จิต ไม่ (สารเลว) รักดี วันๆ ชอบชวนฉันให้คิดแต่เรื่องที่ทำให้ตัวเองเศร้าหมอง ต่อยใข่ใส่สีกับเรื่องที่ผ่านมาแต่ไม่ยอมให้ผ่านไป ทำให้จิตฉันเกิดอกุศลไม่เว้นแม้วินาที แล้วจิตดีๆ ที่ไหนจะสู้ไหว จึงถอยตกขอบเวทีอย่างไม่เป็นท่า ยังไม่พอเจ้าเพื่อนซี้แสน (เลว) แสบ ก็พาฉันแล่นออกไป ทางตาบ้าง หูบ้าง ฯ เก็บเกี่ยวเรื่องเก่าๆ มาเล่าซ้ำ ย้ำใจให้ใจฉันเจ็บจี็ด เท่านั้นยังไม่พอ ฉุดกระชากลากฉันไปในอนาคตราวกับลมกรด ใส่สีสันให้หวั่นวิตกในจิต จิตเถียงจิตกันเองอยู่ข้างใน ระงมอึงอื้อราวกับคนวิกลจริต หลอกให้ใครๆ เข้าใจผิด คิดว่าฉันเป็นคนรักสงบ แต่รู้ไม่ จิตฉันมันพูด ถกเถียงกันทั้งวัน แม้ยามหลับยันตื่นนอน
แม้จะรู้ทั้งรู้ว่า ไม่สามารถสั่งจิตให้หยุดคิด หรือสั่งให้มันสงบได้ อย่างที่ครูบาอาจารย์ พร่ำสอนเอาไว้ ให้ดูจิตมันทำงานด้วยจิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลาง เมื่อจิตมีโทสะ ก็ให้รู้ว่ามีโทสะ จิตมีโมหะก็ให้รู้ว่ามีโมหะ เมื่อจิตยินดียินร้ายกับสภาวะใด ๆ ไม่ว่า จะรู้สึกโกรธขึ้นในใจ หรือโมโหได้เกิดขึ้นแล้ว ก็ให้รู้ทันสภาวะนั้น (อย่างเดียว) แต่ฉัน มันอ่อนหัด แถมสติก็อ่อนไหว เลยถูกกิเลสย้อมใจให้หลงยินดียินร้ายไปกับมัน ผลคือจิตฉันมอมแมมจมอยู่ในโคลนตมอาสวะกิเลสแทบหายใจไม่ออก เหนื่อยหอบ และะเบื่อหน่ายกับจิตไม่รักดีของตัวเอง เสียจริง
ในที่สุด ก็เสียท่าเจ้าเพื่อนตัวแสบ พาฉันไปเยี่ยมญาติในภูมินรกจนได้ หลงเวียนวนอยู่ในภพของสัตว์เดรัจฉาน (ที่เกิดขึ้นในใจ) อยู่นานร่วมเดือน
จะว่าไปแล้ว ในเสียย่อมมีได้เสมอ เอาคำสอนท่านพุทธทาสเสริมสร้างกำลังใจ “ดูให้ดี มีแต่ได้ไม่มีเสีย” จะได้ไม่ท้อถอย แม้จะสู้รบเสียท่าเจ้าจิตไม่ (สารเลว) รักดี เพื่อนขวัญของฉัน แต่ในเสียก็มีดีให้ฉันเห็น เห็นสภาวะที่จิต เกิด-ดับ เป็นเช่นไร จิตแสดงไตรลักษณ์ให้เห็นเป็นอย่างไร เหมือนที่ครูบาอาจารย์สอนไว้ หมั่นเจริญสติเข้าไว้ จะได้ไม่แพ้ภัยศัตรูที่อยู่ในใจ เรียนรู้ลงมาที่กาย-ใจนี้ แล้วจะพบธรรมะของจริง ครูใหญ่ที่สอนธรรมะเราอยู่ทุกคืนวันไม่ใช่ใครที่ไหน คือ กาย-ใจ (รูป-นาม)... เรานี้เอง ขอบคุณเพื่อนรัก... จิต ไม่ (สารเลว) รักดี
มือใหม่ หัดดู
10 พค.54
No comments:
Post a Comment