ที่พูดอย่างนั้นก็ไม่ใช่อะไรอื่น เพราะคิดว่า หากอยากได้รางวัลร้อยล้านเป็นของขวัญ ก็คงเป็นได้แค่ฝัน ที่ไม่มีวันเป็นจริง (แล้วจะอยากไปทำไม?) เพราะแม้คนถามก็คงอยากได้เหมือนกัน J และของขวัญที่่ผู้เขียนอยากได้ คงไม่มีใครหาซื้อให้ได้แม้มีเงินมากแค่ไหนก็ตาม...แต่ เรื่องไม่น่าเชื่อมักเกิดขึ้นได้เสมอ
สาม-สี่ วันก่อน ได้ข่าวเลาๆ จากทางบ้านว่า น้องชายจะพาแม่และพ่อไปปฎิบัติธรรม ๑๐ วัน ผู้เขียนเห็นใจตัวเองขณะนั้น เต้นลิงโลดอยู่ข้างในด้วยความดีใจ เป็นสุขอย่างประหลาด นานหลายปีมาแล้วที่ น้องๆ และผู้เขียน พยายามชักจูงให้พ่อไปปฏิบัติธรรม แต่พ่อมักจะผัดผ่อน บอกยังไม่ถึงเวลา แถมยกเหตุผลหลากหลายขึ้นมาอ้างกับลูกๆ เพราะกลัวว่าลูกๆ จะน้อยใจ...เช่น นั่่งขัดสมาธิกับพื้นนานๆ ไม่ได้ และอีกสารพัดเหตุผล
หลังสุดที่เห็นพ่อกับแม่เมื่อกลางปีนี้ ผู้เขียนจึงเข้าใจคำว่า อุเบกขา และปล่อยวาง (ซึ่งไม่ได้หมายถึงปล่อยตามเวรตามกรรม) ในสุดลึกของใจบอกกับตัวเองว่า ต้องมีสักวัน สักวันที่ความหวังของเรา...จะเป็นจริง
ครั้นเมื่อได้รับข้อความจากพ่อส่งผ่านทางไกลมาบอกเมื่อวานก่อน แถมชักชวนให้ไปปฏิบัติธรรมด้วย ทำให้ผู้เขียนแน่ใจว่าพ่อจะไปปฏิบัติธรรมจริงๆ ความรู้สึก...ปิติอยู่นาน...ธรรม...จัดสรร
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะแค่ว่าลองไปปฏิบัติ (ถึง ๑๐ วัน) หรือไปเพราะทนแรงโน้มน้าว เกลี้ยกล่อมของน้อง ๆ ที่ยกแม่น้ำหลายสิบสายในเมืองไทย มากล่อมให้ไปก็ตาม ผู้เขียนก็มองเห็นความหวังรำไรแล้วว่า เมื่อมีก้าวแรก ก็ย่อมมีก้าวต่อๆ ไป...หนทางที่พ่อและแม่กำลังจะเดินไปนั้น พระพุทธองค์ท่านแนะสัตว์โลกผู้มีกิเลสหนาอย่างอย่างเราๆ ไว้แล้วว่า...เป็นทางแห่งความดับทุกข์ เป็นทางอันประเสริฐ
ความลับ
แม่ไขความลับให้ฟังว่า ที่พ่อยอมไป เพราะน้องๆ บอกพ่อว่า (จริงๆ แล้วน่าจะเรียกว่าขู่ ก็ได้J) ทุกคนในบ้าน ใครๆ เขาก็ไปกันหมดแล้ว (หมายถึงไปปฏิบัติธรรม) ก็เหลือแต่ป๋าเท่านั้นนะ ไม่มีใครคอยป๋าแล้วนะ ไม่ทันใครเพื่อนไม่รู้ด้วยนะ ไม่ลองดูแล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าดีหรือไม่ดี
ผู้เขียนให้กำลังใจพ่อไปว่า ไม่มีอะไรที่น่ากลัว หรือลำบากแต่อย่างไร (จะลำบากสุดก็ที่ต้องรบกับกิเลสในใจเรานี้แหล่ะ) แถมสถานที่ที่ไปปฏิบัติก็สัปปายะ ใครๆ ก็อยากไปกัน จะมีก็เพียงแต่กฏเกณฑ์เคร่งครัด และห้ามพูดคุยถึงสิบวัน ซึ่งก็เป็นผลดีล้วนๆ ต่อผู้ปฏิบัติ ผู้เขียนได้ให้กำลังใจเพิ่มว่า ธรรม เป็นของธรรมดาก็จริง แต่ยากนักที่เราจะเห็นธรรม แค่หากเราเริ่มทำความเพียรและหมั่นปฏิบัติอยู่กับกาย-ใจเรานี้ สักวันพ่อก็จะพบความสุข จากธรรม (ของพระพุทธองค์) เช่นคนอื่น ๆ ไม่มีอะไรเกินความเพียรของเราไปได้ ผู้เขียนดีใจที่พ่อกับแม่ ได้ให้ของขวัญอันล้ำค่าแก่ผู้เขียน พ่อบอกขอบใจลูกที่ให้กำลังใจ พ่อจะลองดู (สักตั้งพ่อ สักตั้ง...ผู้เขียนคิดในใจ) ฟังน้ำเสียงพ่อแล้ว ผู้เขียนปิติอยู่ลึก ๆ ขอส่งแรงใจให้พ่อปฏิบัติครบ ๑๐ วัน แม้ขณะที่กำลังเขียนลง blog ก็ยังรู้สึกปิติ...ไม่หาย
ของขวัญ...ธรรมจัดสรร
แม้จะเป็นเพียงแค่เริ่มต้น เป็นเพียงก้าวแรกของพ่อและแม่ บนเส้นทางแห่งธรรมนี้ก็ตาม
ผู้เขียนบอกกับตัวเองว่า เพียงไม่กี่วันจะขึ้นปีใหม่ ผู้เขียนได้ของขวัญอันประเสริฐแล้ว ของขวัญที่พ่อ-แม่ และน้อง ๆ ได้มอบให้กับผู้เขียน คือนำพ่อกับแม่ เข้าสู่เส้นทางแห่งความสงบแห่งใจ เส้นทางที่จะนำเราไปถึงทางสิ้นทุกข์ (ไม่ว่าจะต้องทำความเพียรนานกี่ชาติก็ตาม) ผู้เขียนขอกราบอนุโมทนาบุญกับพ่อและแม่ในการปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ อนุโมทนาบุญกับกับน้องๆ ทุกคน ที่ชักนำ ตลอดจนสนับสนุน อำนวยความสะดวก ทั้งกำลังกาย-ใจ และทรัพย์ ให้พ่อและแม่ได้ไปปฏิบัติธรรม
ของขวัญจากเพื่อน อีกหนึ่งที่มีค่า
ในวันเดียวกันผู้เขียนก็ได้ข่าวดีทางไกลจากเพื่อน (รักๆ ชังๆ :) อีกคน (ที่ถึงแม้จะฟัดกันทุกครั้งที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน) หยุดปีใหม่ปีนี้เพื่อนผู้เขียนจะไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์ ที่ครั้งหนึ่ง เรา, เพื่อนและผู้เขียนได้มีบุญ (แต่กรรมบัง ใจที่ยังมืดมิด จึงบิดบังธรรมดี ๆ ไปเสีย) ไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์เมื่อ 20 ปีก่อน โดยความอำนวยจากบริษัทที่เพื่อนและผู้เขียนทำงานอยู่ ได้จัดให้ผู้บริหารตั้งแต่ระดับล่างถึงระดับบน เข้ารับการอบรมธรรมะ ในหัวข้อ “ธรรม & ธุรกิจ” ครั้งนั้น ผู้เขียนและเพื่อน เรียกได้ว่าพอมีบุญ (แต่บุญไม่ถึง) ได้มีโอกาสไปนั่งพับเพียบอยู่ต่อหน้าท่านพุทธทาส พร้อมกับผู้บริหารอีกหลายท่าน แต่น่าเสียดาย ผู้เขียนในขณะนั้นจิตยังมืดมิด จึงไม่เข้าใจ “ธรรม” (ที่ง่าย และย่อยแล้ว) ที่ท่านพุทธทาส ได้เทศน์อบรมสั่งสอน
เพื่อนบอกว่า ได้ชวนเพื่อนอีกคนไปปฏิบัติธรรมด้วย... (ผู้เขียนรู้สึกดีใจแทนเพื่อน และอนุโมทนากับเพื่อนที่ชวนเพื่อนไปปฏิบัติธรรมได้ ในขณะที่พูด ผู้เขียนก็เห็น ความรู้สึกอิจฉา เล็กๆ บางเบา พวยขึ้นมาในใจผู้เขียน ที่เพื่อนๆ มีโอกาสอันดี ได้ไปปฏิบัติธรรมกันที่สวนโมกข์ ในวันหยุดยาว ปีใหม่นี้)
แม้ผู้เขียนจะไม่มีโอกาสดีอย่างเพื่อน ผู้เขียนก็ขอ อนุโมทนาบุญ กับเพื่อนทั้งสอง...จากใจ
ส่วนผู้เขียน ขอใช้ กาย-ใจ ปฏิบัติธรรม...ที่บ้าน...(แม้จะล้มลุก คลุกคลาน เดินหน้าหนึ่งก้าว ถอยหลัง สามก้าวก็ตาม ก็จะพยายาม...นะเพื่อน)
ผู้เขียนขอเล่า “เสียงสะท้อนในใจ” ผ่านบ้านหลังเล็กๆ นี้ พร้อมกับบอกบุญทุกท่านที่ผ่านเข้ามาเยี่ยม ได้ร่วมอนุโมทนาบุญ
ผู้เขียนจะดีใจเป็นอย่างยิ่ง หากคำบอกเล่านี้ พอจะมีค่า มีประโยชน์ต่อทุกท่าน ที่พลัดหลงเข้ามาอ่าน ทั้งที่ตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม ได้ลองศึกษาดูว่า การเจริญวิปัสสนา ธรรม ธรรมดาที่พระพุทธองค์ค้นพบ และทรงสั่งสอนสัตว์โลกอย่างเราไว้นี้ ดียังไงนะ ประเสริฐอย่างไรนะ ทำไมใครๆอยากไปปฏิบัติกันจัง ...ผู้เขียนก็ขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่าน ไว้ ณ บ้านหลังเล็ก ๆ นี้
๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๓
แล้วเพื่อนๆ น้องๆ พี่ๆ ได้ของขวัญปีใหม่ ที่ถูกใจหรือยัง J
(เขียนมาเล่าหลังไมค์ก็ได้ นะ)
********
ศูนย์ปฏิบัติอบรมวิปัสสนา ธรรมสีมันตะ จังหวัดลำพูน
โดยมูลนิธิส่งเสริมวิปัสสนากรรมฐาน ในพระสังฆราชูปถัมภ์
สอนโดย ท่านโคเอ็นก้า
สอนโดย ท่านโคเอ็นก้า
แนวทางปฏิบัติจาก ท่านอาจารย์อูบาขิ่น
Vipassana meditaiton
As taught By S.N. Goenka
In the tradition of Sayagyi U Ba Khin
ภาพจาก Vipassana Meditation: http://www.thaidhamma.net
ที่ตั้ง
200 หมู่ 1 บ้านหนองสร้อย ต.มะกอก
อ.ป่าซาง จ.ลำพูน 51120
โทร.08-6423-4938
No comments:
Post a Comment