Dhamma for Life

"เราจะเป็นชาวพุทธที่แท้จริงนะ เราต้องศึกษาสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ศึกษาอย่างเดียวไม่พอนะ ต้องลงมือปฏิบัติจริงๆ ด้วยจนเห็นผล พอเห็นผลแล้ว เราก็มีหน้าที่บอกต่อ เนี่ยหน้าที่ของชาวพุทธนะ ตัวเองต้องศึกษา ต้องฟังก่อน ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร เรียกว่าเรียนปริยัตินั้นเอง แล้วก็ลงมือปฏิบัติว่าได้ผลแล้วก็ต้องบอกต่อ ศาสนาถึงจะดำรงอยู่ได้ แต่ละคนมีภารกิจ อย่านึกว่าแค่ว่าเราจะมาฟังธรรมะเล่นๆ แต่ละคนมีความสำคัญทั้งนั้น"


"หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย ลงมือเสียแต่วันนี้ ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลาจะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป เพราะถึงเวลานั้น พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทาง ไปอีกนานแสนนาน"

...หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช...สวนสันติธรรม...

Dec 10, 2010

ธรรมะ คำสอน...หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้

ผ่านไปอีกเดือน เดือนแห่งการสังคม เดือนแห่งการนัดหมาย เมื่อไรที่ติดอยู่กับทางโลกิยะ มักจะหลงทางเสมอว่าประตูทางออกอยู่ตรงไหน

สองสามอาทิตย์ก่อน เพื่อนเก่าส่งเมล์  (forwarding mail) หัวข้อ "ธรรมะของหลวงปู่ทวด อ่านแล้วส่งต่อเพื่อเป็นธรรมทาน" คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่อยู่ ๆ เพื่อนจะ forwarding mail  เรื่องที่ตรงกับเรื่องที่จิตกำลังคิด ณ ขณะนั้นมาให้  (ซึ่งกว่าจะหาเวลาเขียนได้ผู้เขียนก็หลงวนอยู่กับสังคมทางโลกอยู่นาน) หากเล่าเรื่องทำนองนี้ ให้เพื่อน ๆ หรือคนรู้จักกันฟัง เพื่อนจะหยอกกลับมาว่า แหมอย่างนี้  น่าจะคิดอยากได้เงินนะ จะได้คิดวัน ละหลายเที่ยว เผื่อว่าจะได้อย่างที่คิดบ้าง... อืม ก็เข้าท่านะ แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะถ้าเราคิดเพราะโลภ คงเป็นจริงยาก ว่าแล้ว เหล่าชน สุก ๆ ดิบ ๆ อย่างเราก็หัวเราะกันด้วยขำที่บางทีก็เผลอเพ้อเจ้อไป


เพื่อนร่วมงานหลายคนเข้าใจผิดว่าผู้เขียนเป็นคนชอบสะสมพระ (เพราะเห็นรู้จักเหรียญวัตถุมงคล เหล่านี้พอสมควร คงเข้าใจว่ามีเยอะ  อันที่จริง ผู้เขียนรู้จักสรรพคุณ ความขลังของเหรียญ ครูบา อาจารย์ดัง ๆ เหล่านี้เพราะได้ฟังจากพี่ ๆ ร่วมงานก่อนๆ ที่เป็นเซียนพระ บางวันพี่ๆ ก็นั่งส่องพระ ให้เห็นพร้อมทั้งอธิบายความขลังของวัตถุมงคลเหล่านี้ให้ฟัง หากมาถามเอาตอนนี้ ก็แทบจะลืมไปหมดแล้ว เช่นกัน แต่อยากฝากเพื่อน ๆ ที่ผ่านเข้ามาอ่านว่า แม้แต่เหรียญที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ นี้แหล่ะ ก็ศักดิ์สิทธิ์...ยิ่ง  หากเราตั้งอยู่ในธรรม...ไม่เชื่อก็ต้อง ซ.ต.พ.)

เหรียญวัตถุมงคล เหล่านี้ผู้เขียนมักจะได้มาจากผู้อื่น หรือเพื่อนนำมาให้เป็นของที่ระลึก เช่นเหรียญปู่ทวดในภาพ  สิบกว่าปีก่อนผู้เขียนได้เดินทางไปกับน้อง ๆ วิศวกรเพื่อนร่วมงานทางใต้ ระหว่างทาง น้องวิศวกร (คนใต้) ได้เอ่ยกับผู้เขียนว่า เขาได้ไปร่วมงานเผาศพญาติมา และเขาแจกพระเป็นที่ระลึก  มีอยู่สององค์ บรรจุในตลับให้ผู้เขียนเลือกเอา  ผู้เขียน ไม่ได้เลือก หรือดูว่าเป็นเหรียญของหลวงปู่ หลวงพ่ออะไร เพราะคิดว่า จะเป็นองค์ใดก็ศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา ผู้เขียนหยิบเอาตลับหนึ่งพร้อมบอกว่า พี่เอาตลับนี้แล้วกันเพราะเห็นตลับเล็กดี  ครั้นเมื่อเปิดดู ผู้เขียนจึงเห็นว่าเป็นเหรียญหลวงปู่ทวด ผู้เขียนรู้สึกปิติ และดีใจ ที่อยู่ ๆ ก็ได้เหรียญหลวงปู่ ที่เคยคิดอยากได้มานานแล้ว  น้องวิศวกรคนนั้นบอกว่าก็ของนี้จะเป็นของพี่ เพราะจริงๆ เขาจะเอาไปฝากเพื่อน แต่ไม่รู้อย่างไร เอ่ยปากอยากให้พี่ แล้วให้พี่เลือกก่อน...  นับแต่ได้เหรียญหลวงปู่ทวดมา สังเกตุเห็นว่าใจไม่ (ย้ำ) คิดว่า อยากจะได้เหรียญหลวงปู่ทวดอีกเลย...

กลับมาที่เรื่อง forwarding mail ที่เพื่อนกัลยาณมิตรส่งมาให้ มีคำสอนอยู่หลายข้อ ขอยกเอาบางเฉพาะข้อที่กระทบใจ มาแบ่งปัน  ส่วนที่เหลือหาอ่านได้เพิ่มเติมจากหนังสือ  เรียนธรรมะบูชาพระสุปฏิปันโน 
เล่มของหลวงปู่ทวด (ใน forwarding mail ว่าไว้)


โลกิยะหรือโลกุตระ
คนที่เดินทางโลกุตระ ย่อมไปดีทางโลกิยะไม่ได้
คนที่เดินทางโลกิยะย่อมสำเร็จทางโลกุตระได้ยาก เพราะอะไร ?
ถ้าคนหนึ่งสำเร็จได้ทั้งโลกิยะ และโลกุตระง่ายแล้ว
ทำไม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธโคดม ต้องสละราชบัลลังก์แห่งจักรพรรดิไปเป็นธรรมราชาเล่า
ถ้าเป็นไปได้ พระองค์เป็นมหาจักรพรรดิพร้อมทั้งธรรมราชา ไม่ดีหรือ?
แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะโลกของโลกิยะและโลกุตระเดินคู่ขนานกัน เราต้องตัดสินใจ 
ต้องมีความเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญในการที่จะเลือกทางใดทางหนึ่ง



เชื่อว่าหลายคนก็คงประสบเช่นคำสอนหลวงปู่  แม้จะนานเพียงไรสำหรับผู้ที่จะเดินไปให้ถึงทางสิ้นทุกข์ ในขณะที่ยังต้องมีภาระหน้าที่ทางโลก  ผู้เขียนก็ขอเป็นกำลังใจ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่กำลังทำหน้าที่ทั้งทางโลกและทางธรรม...พร้อมกันนั้นขออนุโมทนาบุญกับผู้ส่งผ่านเมล์ธรรมะ ดีๆ ทุกท่าน...จากใจ



No comments:

Post a Comment