Dhamma for Life

"เราจะเป็นชาวพุทธที่แท้จริงนะ เราต้องศึกษาสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ศึกษาอย่างเดียวไม่พอนะ ต้องลงมือปฏิบัติจริงๆ ด้วยจนเห็นผล พอเห็นผลแล้ว เราก็มีหน้าที่บอกต่อ เนี่ยหน้าที่ของชาวพุทธนะ ตัวเองต้องศึกษา ต้องฟังก่อน ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร เรียกว่าเรียนปริยัตินั้นเอง แล้วก็ลงมือปฏิบัติว่าได้ผลแล้วก็ต้องบอกต่อ ศาสนาถึงจะดำรงอยู่ได้ แต่ละคนมีภารกิจ อย่านึกว่าแค่ว่าเราจะมาฟังธรรมะเล่นๆ แต่ละคนมีความสำคัญทั้งนั้น"


"หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย ลงมือเสียแต่วันนี้ ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลาจะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป เพราะถึงเวลานั้น พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทาง ไปอีกนานแสนนาน"

...หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช...สวนสันติธรรม...

Aug 1, 2010

Happy Birthday แม่เธอ และแม่ฉัน


คนหนึ่งคน จะทำอะไรได้มากกว่านี้ หัวข้อ  forwarding mail ที่เพื่อนส่งมาให้หลายอาทิตย์ก่อน อ่านแล้วโดนใจ เห็นด้วยเลย  คนหนึ่งคน หนึ่งสมองสองมือ  แม้อยากจะทำอะไรหลายอย่าง ก็ยังไม่เป็นอย่างใจ   


ฉันต้องพักมือ (ชั่วคราว)  จากงานเขียนหนังสือเมื่อสองวันก่อน สับสวิทช์เข้าโหมด  งานฉลอง และต้อนรับ”  หนึ่งสำคัญคือ  วันคล้ายวันเกิด ของแม่สามี  และ แม่ฉัน; 


31 กรกฎาคม
สุขสันต์วันเกิด”  เรียบ ง่าย เหมือนทุกวัน ผ่านไปแล้วด้วยสิ่งเล็กน้อย (จิ้บจ้อย) จากเราสองคน-ฉันและสามี   สำหรับผู้เฒ่าคราว แปดสิบกว่า  จะมีอะไรที่หล่อเลี้ยงจิตใจได้ดีเท่า มีลูกนั่งร่วมโต็ะกินข้าวด้วย แค่นี้แม่ก็ดีใจ...แล้ว

สุขสันต์วันเกิดขอให้แม่มีความสุข...มาก ๆ นะแม่นะ

ห่างกันไม่กี่ชั่วโมงก็เข้าวันแรกของเดือนสิงหาคม นอกจากจะเป็นวันสำคัญของสวิสเซอร์แลนด์ คือวันชาติสวิสฯ แล้ว ที่สำคัญ คือ เป็นวันเกิดของแม่ฉันด้วย  แถมสีเดียวกันอีกต่างหาก คือสีแดง สัญญลักษณ์ประเทศสวิสฯ...อะไรจะปานนั้น

1 สิงหาคม

  “สุขสันต์ วันเกิด  ค่ะแม่  ขอให้แม่มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง อายุ วรรณะ สุขะ พละ ค่ะ

วันคล้ายวันเกิดแม่ มีคนฉลองให้ทั้งประเทศในอีกซีกโลก จุดพลุเสียงดังล่วงหน้าแต่เที่ยงคืน (เมืองไทย) แม้ขณะที่อัปเดทปล็อกก็ยังได้ยินเสียงพลุดัง เป็นระยะ ระยะ  วันเกิดแม่ เริด นะแม่นะ

เพื่อนหลายคนรวมทั้งแม่สามี ถามฉันว่าแม่ฉันอายุเท่าไรแล้ว ฉันบอก ราว ๆ ...
อะไรนะ อายุแม่ตัวเองยังจำไม่ได้แถมส่งเสียงสูงขึ้นจมูก บวกสายตาแบบว่า เป็นลูกภาษาอะไรกัน (wa)  อายุแม่ยังไม่รู้อีก  ฉันบอก ขนาดอายุตัวเองยังลืมเลย จะเอาอะไรกะคนวัยทองอย่างฉัน เอาน่า..ที่รู้ ๆ วันคล้ายวันเกิดแม่ฉันยิ่งใหญ่ละกัน มีฝรั่ง ตาสีฟ้า และฝ้ามัว ทั่วประเทศ (อันหลัง ฝ้ามัว นี่ สงวนสิทธิไว้สำหรับฉันคนเดียว อิ อิ  เพราะถ้าคุณสามีไม่ตาฝ้ามัว คงไม่คว้าฉัน นังตัวแสบ มาเป็น แม่คุณ ของคุณเธอ...อย่างแน่นอน อิ อิ อิ...)

ไม่ว่าจะวันเกิดของใคร ในครอบครัว คนที่มีความสุข และเป็นเจ้าของวันเกิดตัวจริง หนีไม่พ้น เจ้าหลานแฝด อ้วนผอม หงอคง-นาจา... ที่ ป้า น้า อา ซื้อเค็ก ก็เพราะหลานฮัก ทั้งสองนั่นแหล่ะ...วันเกิดใครในบ้าน ถือว่าเป็นวันเกิดของ หงอ กับ นาจา ด้วย เพราะเจ้าของไม่มีสิทธิ์ เป่าเทียนวันเกิด นอกจากเขาหล่ะ  หงอคง และนาจา
คนแก่  ก็อย่างนี้แหล่ะ เหมือนกันไม่ว่าชาติไหน จะมีความสุขอะไรเท่ากับได้เลี้ยงหลาน (ต่างแต่เพียงกิจกรรมใการเลี้ยง) ต่อให้ต้องแบกขันธ์หนัก ๆ ทั้งห้า...ก็ยอม 


ไหน ๆ ก็พูดถึงเรื่องแม่ แล้ว เราคงไม่ได้เปลี่ยนจากวุ้นเป็นตัวตน หากขาดพ่อ  มีบทกลอนอยู่บทที่มีค่าและเป็นคุณหากเราปฎิบัติได้  คัดลอกจากหนังสือสวดมนต์ ของหลวงพ่อจรัญ วัดสิงห์บุรี กว่าสิบปีก่อน มาแบ่งปันให้อ่านกัน ไว้เป็นเครื่องเตือนใจ รวมทั้งผู้เขียนด้วย เผื่อเป็นประโยชน์ ไม่มากก็น้อย  หากใครปฎิบัติิได้อย่างที่กล่าวไว้ หรือทั้งกำลังทำอยู่ หรือได้ทำสำเร็จแล้ว ผู้เขียนขอนุโมทนาบุญ อย่างจริงใจ ขอให้มีความสุข ความเจริญ...ถ้วนหน้า

พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน                       จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววารของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจากเพราะยังอยากเห็นลูกหลาน         แต่ชีพมิทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป
ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ                    คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร                           ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ
เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย                   ร้องไห้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน              หวังเพียงจะได้ยล เติบโตจนสง่างาม
ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม                        ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่ทนได้                             วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง

                                                                   ******

No comments:

Post a Comment