Dhamma for Life

"เราจะเป็นชาวพุทธที่แท้จริงนะ เราต้องศึกษาสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ศึกษาอย่างเดียวไม่พอนะ ต้องลงมือปฏิบัติจริงๆ ด้วยจนเห็นผล พอเห็นผลแล้ว เราก็มีหน้าที่บอกต่อ เนี่ยหน้าที่ของชาวพุทธนะ ตัวเองต้องศึกษา ต้องฟังก่อน ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร เรียกว่าเรียนปริยัตินั้นเอง แล้วก็ลงมือปฏิบัติว่าได้ผลแล้วก็ต้องบอกต่อ ศาสนาถึงจะดำรงอยู่ได้ แต่ละคนมีภารกิจ อย่านึกว่าแค่ว่าเราจะมาฟังธรรมะเล่นๆ แต่ละคนมีความสำคัญทั้งนั้น"


"หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย ลงมือเสียแต่วันนี้ ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลาจะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป เพราะถึงเวลานั้น พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทาง ไปอีกนานแสนนาน"

...หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช...สวนสันติธรรม...

Dec 4, 2012

คนจรจัด หัวใจทองคำ - ศิิริธร โยธิน (เขียว) รักในหลวงยิ่งชีพ - จากรายการคนค้นคน





สมบัตินอกกาย กลับกลายเป็น สมบัติผลัดกันชมทันที ที่เมื่อเจ้าของสิ้นลมหายใจ ไม่สามารถนำติดตัวไปในภพหน้าได้
แต่สมบัติแห่งความดี กลับติดตัวผู้ที่ทำความดีนั้น เพื่อเป็นเสบียงไว้เลี้ยงตัวในภพหน้า หรือแม้ในขณะยังมีลมหายใจอยู่ ไม่มีใครยื้อแย่งจากผู้ที่ทำความดีนั้นไปได้ อย่างเช่น ศิริธร โยธิน ที่มีความดีจากใจ ไว้ให้เราได้ชื่นชม และเป็นตัวอย่าง ให้เราไ่ม่ท้อที่จะทำความดี แม้ไม่มีใครเห็นก็ตาม 

ธรรมะ มีอยู่ทุกที่ แม้ในคนจรจัด คนเก็บขยะ อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นและนำมาปฎิบัติ และสอนใจเราหรือไม่

เป็นวันที่มีความสุข อิ่มใจอีกหนึ่งวันที่ได้เห็น คนดีของสังคมในบ้านเรา

ขอขอบคุณรายการ คนค้นคน ที่ผลิตรายการดีๆ ให้ได้ชมกัน 

================



ศิิริธร โยธิน (เขียว) คนเก็บขยะขายหาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริต ซื่อตรง ไม่มีแม้บ้านจะอยู่ อาศัยนอนตามตู้โทรศัพท์ แต่ใจของเขากลับอิ่มและพอเพียง เต็มเปี่ยมด้วยความรัก ภักดิ์ดี และเทิอดทูน องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงของปวงชนชาวไทย หนึ้งคนดีของสังคม คนดีที่น่ายกย่อง

  
"เก็บขยะขาย ได้เพียงพอมีกิน และได้ทำบุญ ผมก็พอใจแล้ว"

เกี่ยวกับติดรูปพระเจ้าอยู่หัวไว้หน้ารถ
"เราทำอย่างนี้ใช่ไหม นี่แหล่ะ ลับหลังพระเข้าอยู่หัวหล่ะ เราต้องทำ เราอย่าทำต่อหน้า นี่ลับหลัง ลับหลังกับต่อหน้าต้องตรงกัน นี่คือคนไทย ใครจะว่าสร้างภาพอย่างไรก็ตาม แต่สำหรับผมนี้คือการกระทำลับหลังพระเจ้าอยู่หัว รักในหลวงก็ทำ ลับหลังผมทำ  ใครจะว่าสร้างภาพผมไม่สนใจ"

"ประวัติศาสตร์ทำให้ผมฉุกคิด คิดได้ว่าทำไมแผ่นดินนี้ถึงไม่มีใครเอาไปได้ เมื่อเราคิดอย่างนี้ได้ปึบ ข้อที่สองมันมาเลย เราควรจะยกย่องสรรเสริญ  คุณงามความดีสถาบันพระมหากษัตริย์ยังไง เราควรจะยกย่องแผ่นดินของเรายังไง"

"เราอาศัยแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัว เราอาศัยแผ่นดินของท่านอยู่ แล้วก็ตาย  ของแบบนี้ไม่ใช่แบบว่า เกิดมาเป็นคนก็อย่างงั้น อย่างงั้นแหล่ะ ไม่ใช่"


"คุณงามความดีมากมายที่สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ทรงสร้างและรักษาไว้ให้กับชาติบ้านเมือง เพื่อให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข  นี่คือความรักที่ไม่มีวันตายของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่มีให้ สำหรับแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวและประชาชน"

"ชีวิตส่วนตัวจะพังอย่างไรก็ช่างมัน อย่าชั่ว เป็นคนดี ทำความดีไปจนถึงวันตายนั่นแหล่ะ คุ้มค่าแล้ว จะนอนตรงไหน กินอย่างไร เรื่องเล็ก ไร้ค่า เพราะจิตใจผมอยู่กับสิ่งนี้แล้ว ตระบัดสัตว์นิดเดียวก็มีอันเป็นไปแล้วหล่ะ ชีวิต"

ธรรมะจากกระจกส่องใจ:

กระจกส่องใจ สอนอะไรคุณ..?

กระจก... ไม่เลือกที่จะสะท้อนภาพทุกชนิด ฉันใด

จิตใจ... จงเอาเยี่ยงอย่างกระจก

กระจก... รับรู้ แต่ไม่ยึดถือครอบครอง

ดังนั้น... จึงไม่มีภาพใดๆ หลงเหลืออยู่ในกระจก

สายฝน... ในกระจก หาได้เปียกกระจกไม่

เปลวไฟ... ในกระจก ก็หาได้เผาลนกระจกเช่นกัน

ทั้งนี้... เพราะกระจก ไม่ได้ให้อำนาจแก่ สายฝน และเปลวไฟ 

ดังนั้น...จงทำจิตใจของท่าน ให้เป็นดุจการรับรู้ของกระจก เพราะถ้าหากจิตของท่าน หลงยึดถือหรือตกเป็นทาสของกิเลสเมื่อใด ความทุกข์ ความเศร้าหมองใจย่อมตามมา เมื่อนั้น..






No comments:

Post a Comment